Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 8418 จำนวนผู้เข้าชม |
ปิงหลาง (槟榔) คือเมล็ดสุกแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Areca catechu L. วงศ์ Arecaceae (Palmae)
ชื่ออื่น ๆ
หมากสง (ไทย) ปิงหลาง (จีนกลาง) ปิงน้อ (จีนแต้จิ๋ว) Areca Seed, Arecae Semen
ลักษณะภายนอก
ทรงกลมแบน ผิวสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน หรือสีน้ำตาลอมแดงอ่อน มีรอยลายตาข่ายบุ๋มลงไปเล็กน้อย มีรอยของขั้วเมล็ดชัดเจน เนื้อแข็ง ทุบแตกยาก หน้าตัดพบเปลือกเมล็ดสีน้ำตาลและเอนโดสเปิร์มสีขาวเป็นลายหินอ่อน มีกลิ่นอ่อน ๆ รสฝาด ขมเล็กน้อย
แหล่งผลิตที่สำคัญ
มณฑลกว่างตง หยุนหนาน กว่างซี และฝูเจี้ยน
การเตรียมอิ่นเพี่ยน
1.ปิงหลาง : กำจัดสิ่งแปลกปลอม แช่น้ำจนกระทั่งน้ำซึมเข้าสู่เนื้อตัวยา หั่นเป็นแว่นบาง ๆ ตากให้แห้งในที่ร่ม
2. เฉ่าปิงหลาง : คั่วปิงหลางด้วยไฟระดับอ่อนจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ร่อนแยกเศษเล็ก ๆ ออก
3. เจียวปิงหลาง : คั่วปิงหลางด้วยไฟระดับกลางจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเกรียม ร่อนแยกเศษเล็ก ๆ ออก
ฤทธิ์ของยาตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนจีนมี
รสขม เผ็ด อุ่น เข้าสู่เส้นลมปราณกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
1. ปิงหลาง : ฆ่าพยาธิ แก้ท้องอืด ดึงชี่ลงสู่ส่วนล่าง ขับปัสสาวะ และรักษามาลาเรีย
2. เฉ่าปิงหลาง : การคั่วทำให้ยาออกฤทธิ์สุขุมขึ้น ป้องกันภูมิต้านทานของร่างกาย (เจิ้งชี่) ถูกทำลาย ลดผลข้างเคียง (คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง)
3. เจียวปิงหลาง : มีฤทธิ์เหมือนเฉ่าปิงหลาง แต่มีฤทธิ์ช่วยย่อยดีกว่า
ฤทธิ์ของยาตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
มีรสฝาด สมานแผล แก้ปวดเมื่อย แก้บิดมูกเลือด รักษาแผลในปากในคอ เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดในสัตว์
ขนาดและวิธีใช้
ต้มรับประทาน 3-10 กรัม กรณีขับพยาธิตัวตืดและพยาธิใบไม้ ต้มรับประทาน 30-60 กรัม
* ข้อห้ามใช้ ข้อควรระวังในการใช้ *
ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการชี่พร่องและจมลงส่วนล่าง
เอกสารนี้เป็นลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของคลินิกหัวเฉียวแผนแพทย์จีน
ใช้เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้แก่ประชาชน
ห้ามคัดลอกในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตทุกกรณี
24 มี.ค. 2566
19 ก.พ. 2567
23 เม.ย 2567