Last updated: 27 ส.ค. 2567 | 4500 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคกรดไหลย้อน (gastro-esophageal reflux disease, GERD) 胃食管反流病
คือ อาการที่เกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หรือแม้กระทั่งเวลาที่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานอาหารก็ตาม โดยความผิดปกตินั้นทำให้เกิดการระคายเคืองของกรด เช่น อาจทำให้เกิดอาการหลอดอาหารอักเสบโดยไม่เกิดแผล หรือหลอดอาหารอักเสบโดยมีแผล หรือหากกรดไหลย้อนขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบน อาจทำให้เกิดอาการบริเวณนอกหลอดอาหาร (atypical or extraesophageal GERD) เช่น อาการที่ปอด หรืออาการที่คอและกล่องเสียง (laryngopharyngeal reflux : LPR)
โดยปกติแล้ว ร่างกายจะมีกลไกป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไหลย้อนกลับของกรดในกระเพาะอาหารขึ้นไปในระบบทางเดินอาหารส่วนบน เช่น การบีบตัวของหลอดอาหาร การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบน และส่วนล่าง เยื่อบุของหลอดอาหารมีกลไกป้องกันการทำลายจากกรด ซึ่งการเกิดโรคกรดไหลย้อนนั้น เชื่อได้ว่าเกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวอย่างผิดปกติ ทำให้มีการไหลย้อนกลับของกรดขึ้นไปในหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น เนื่องจากโดยปกติแล้วเมื่อกรดไหลย้อนขึ้นไปบริเวณคอหอย ย่อมเกิดการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบนหดตัว ป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นไปอีก
อาการที่เด่นชัดของกรดไหลย้อน
1. เรอเปรี้ยว เนื่องจากการคลายตัวของหูรูดทำให้อาหาร ของเหลว น้ำดี น้ำย่อยหรือแม้กระทั่งแก๊สไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร ช่องคอ หรืออาจมีลมออกมาถึงช่องปากเลยก็ได้เช่นกัน
2. แสบกลางอก เนื่องจากความเป็นกรดกระตุ้นและส่งผลถึงระบบประสาทการรับรู้ ซึ่งอยู่บริเวณหลอดอาหาร ดังนั้นจึงสามารถรับรู้ได้ถึงความแสบจากภาวะกรดไหลย้อน
3. ไม่สบายท้องหรือเหนือสะดือมีอาการแสบร้อน
4. เจ็บหน้าอก โดยส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณใต้ลิ้นปี่และมักร้าวลงไปหน้าท้อง คอ หน้าอก แขน เป็นต้น
โรคกรดไหลย้อนในศาสตร์การแพทย์แผนจีน
โรคกรดไหลย้อน ในศาสตร์การแพทย์แผนจีน เรียกว่า 吐 酸TuSuan โดยตำแหน่งของโรคจะเกี่ยวข้องกับหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร รวมทั้งตับ ถุงน้ำดี ม้าม และปอด มีสาเหตุจากความผิดปกติทางอารมณ์ ความเครียด คิดมากเกินไป พื้นฐานร่างกายอ่อนแอ โภชนาการที่ไม่เหมาะสม สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ จนทำร้ายร่างกายภายใน รวมถึงโรคของถุงน้ำดี-ถุงน้ำดีร้อนโจมตีกระเพาะอาหาร รวมทั้งม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง นำไปสู่การล้มเหลวของการลำเลียงอาหารและน้ำ ทำให้เกิดการไหลย้อนขึ้นของชี่ที่ไม่สะอาด
การวินิจฉัยแยกกลุ่มอาการเพื่อการรักษา
1. ตับและกระเพาะอาหารมีความร้อนสะสม
อาการหลัก : แสบร้อนหน้าอก อาเจียนเป็นน้ำกรดในกระเพาะอาหาร
อาการร่วม : ปวดแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ท้องอืด เรอบ่อย คลื่นไส้ โมโหง่าย หิวง่าย ลิ้นแดง ฝ้าเหลือง ชีพจรเสียน(弦)
หลักการรักษา : ระบายความร้อน กระจายชี่ตับ ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร
2. ไฟถุงน้ำดีไหลย้อนขึ้นข้างบน
อาการหลัก : แสบร้อนหน้าอก ปากขมคอแห้ง
อาการร่วม : ปวดเสียดบริเวณชายโครง เจ็บหน้าอก ปวดหลัง อาเจียนเป็นน้ำกรดในกระเพาะอาหาร เรอบ่อย คลื่นไส้อาเจียน กระวนกระวาย นอนไม่หลับ หิวง่าย ลิ้นแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรเสียนหฺวาซู่(弦滑数)
หลักการรักษา : ขจัดความร้อน ปรับสมดุลถุงน้ำดีและกระเพาะอาหาร ทำให้ชี่ไหลลง
3. ชี่และเสมหะอุดกั้น
อาการหลัก : รู้สึกคล้ายมีก้อนเสมหะอยู่ในคอ ไม่สบายหน้าอก
อาการร่วม : คลื่นไส้อาเจียนหรือเรอบ่อย กลืนลำบาก เสียงแหบหรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม ไอหรือรู้สึกสำลักในเวลากลางคืน ลิ้นมีฝ้าขาวเหนียว ชีพจรเสียนหฺวา(弦滑)
หลักการรักษา : ระบายเสมหะ ขับเคลื่อนชี่ให้ไหลเวียนเป็นปกติ
4. พลังหยางที่ทรวงอกไม่เพียงพอ
อาการหลัก : เจ็บไม่สบายหน้าอก รู้สึกจุกแน่นอยู่ในหน้าอก คล้ายอาหารไม่ย่อย
อาการร่วม : อาเจียนเป็นน้ำกรดในกระเพาะอาหาร ปวดรำคาญบริเวณลิ้นปี่ ท้องอืด ไม่สบายท้อง ชี่ย้อนขึ้นไปข้างบน กลัวหนาว อุจจาระแข็งหรือขับถ่ายลำบาก ลิ้นซีดฝ้าขาว ชีพจรซี่หฺวา(细滑)
หลักการรักษา : ปรับชี่ บำรุงหยาง ระบายเสมหะ
5. ชี่ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ
อาการหลัก : อาเจียนเป็นน้ำกรดในกระเพาะอาหารหรืออาเจียนเป็นน้ำใสๆ เรอบ่อยหรือคลื่นไส้
อาการร่วม : ปวดแบบรำคาญบริเวณลิ้นปี่ จุกแน่นกระเพาะอาหาร ไม่อยากอาหาร เหนื่อยล้าไม่มีแรง อุจจาระเหลว ลิ้นซีดฝ้าบาง ชีพจรซี่รั่ว(细弱)
หลักการรักษา : เสริมชี่บำรุงม้าม ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร
6. ม้ามพร่องและมีความร้อนชื้น
อาการหลัก : อาเจียนเป็นน้ำกรดในกระเพาะอาหารหลังจากทานอาหาร ท้องอืดหลังจากทานอาหาร
อาการร่วม : ปวดแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ แน่นหน้าอก อึดอัด ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลียไม่มีแรง อุจจาระเหลว ลิ้นซีดหรือแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรซี่หฺวาซู่(细滑数)
หลักการรักษา : ระบายความร้อน ขจัดความชื้น บำรุงม้าม ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร
7. อินกระเพาะอาหารไม่เพียงพอ
อาการหลัก : แสบร้อนกลางอก หิวแต่ไม่อยากทานอาหาร
อาการร่วม : คลื่นไส้ ท้องอืดหลังจากทานอาหาร ปากแห้งลิ้นแห้ง อุจจาระแห้งแข็ง ลิ้นแดง ฝ้าน้อยหรือไม่มีฝ้า ชีพจรซี่ซู่(细数)
หลักการรักษา : เพิ่มสารน้ำบำรุงอิน ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร
การรักษา
ศาสตร์การแพทย์แผนจีนใช้หลักการรักษาโรคกรดไหลย้อน คือ “ปรับสมดุลกระเพาะอาหาร ทำให้ชี่ไหลลง” เป็นหลัก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อซ่อมแซมเนื่อเยื่อบริเวณหลอดอาหาร บรรเทาอาการของโรค ป้องกันการเกิดโรคซ้ำ เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม ถูกใช้เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาอาการบริเวณนอกหลอดอาหาร (GERD) ที่ไม่ใช้ยา
จุดฝังเข็ม
โดยทั่วไปแพทย์จะเลือกใช้จุดบนเส้นลมปราณเญิ่น เส้นลมปราณกระเพาะอาหาร เส้นลมปราณตู และเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ ได้แก่ เน่ยกวน จู๋ซานหลี่ จงหว่าน ซึ่งการแยกข้อมูลของจุดฝังเข็มที่ใช้บ่อยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ตามผลการวิเคราะห์ทางสถิติ ดังนี้
จุดฝังเข็มกลุ่มที่ 1 | เลือกใช้จุดบนเส้นลมปราณตู คือ เสินเต้า จื้อหยาง |
จุดฝังเข็มกลุ่มที่ 2 | เลือกใช้จุด เทียนซู กวนหยวน เซี่ยหว่าน ซ่างหว่าน ซินซู ซานอินเจียว ชีเหมิน ไท่ชง |
จุดฝังเข็มกลุ่มที่ 3 | เลือกใช้จุด กงซุน หยางหลิงฉวน เว่ยซู จู๋ซานหลี่ เน่ยกวน จงหว่าน |
การรมยา
แพทย์จะเลือกใช้จุดฝังเข็มบริเวณหลัง ได้แก่ ผีซู เว่ยซู กานซู
การครอบแก้ว
แพทย์จะเลือกใช้จุด ต้าฉางซู เว้ยซู เฟ้ยซู ต้าจุย ติ้งช่วน
กรณีศึกษา (Case Study)
ข้อมูลผู้ป่วย :
ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 52 ปี เข้ารับการรักษาครั้งแรกวันที่ 6 สิงหาคม 2566
เข้าพบแพทย์ด้วยอาการสำคัญ คือ รู้สึกมีก้อนอยู่บริเวณคอเป็นเวลา 3 เดือน
อาการสำคัญในปัจจุบัน :
มีก้อนอยู่บริเวณคอ กลืนอาหารและน้ำลำบาก ไม่สบายและอึดอัดบริเวณหน้าอก ปวดแน่นจุกบริเวณลิ้นปี่ในบางครั้ง ท้องอืด เรอบ่อย เสียงเบาเสียงแหบ ตอนกลางคืนมักมีอาการไอหรือสำลัก ความอยากอาหารปกติ นอนหลับปกติ การขับถ่าย 1-2 วัน/ครั้ง
การตรวจร่างกาย :
ความดันโลหิต 132/87 mmHg อัตราการเต้นหัวใจ 71 ครั้ง/นาที ตรวจลิ้นพบลิ้นสีแดงซีด มีฝ้าขาวเหนียว ชีพจรเสียนหฺวา(弦滑)
การวินิจฉัย :
อาการหลักและอาการร่วมของผู้ป่วย ประกอบกับวินิจฉัยลิ้นค่อนข้างมีฝ้าขาว จึงสามารถจัดอยู่ในกลุ่มอาการชี่และเสมหะอุดกั้น
วิธีการรักษา :
กลุ่มอาการชี่และเสมหะอุดกั้น แพทย์ใช้หลักการรักษา คือ ระบายเสมหะ ขับเคลื่อนชี่ให้ไหลเวียนเป็นปกติ โดยฝังเข็มสัปดาห์ละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง
จุดฝังเข็ม :
จุดหลัก/จุดประกอบ | จุดฝังเข็ม |
จุดหลัก | จุดจงหว่าน เป็นจุดมู่ของกระเพาะอาหารใช้ร่วมกับจุดเน่ยกวนจะช่วยเสริมชี่ของซ่างเจียวและจงเจียว จุดจู๋ซานหลี่ เป็นจุดเหอล่างของกระเพาะอาหาร เมื่อใช้ร่วมกับจุดจงหว่านและจุดเน่ยกวน จะดึงชี่ที่ย้อนขึ้นไปอย่างผิดปกติให้ลงมา และหยุดอาการกรดไหลย้อน |
จุดประกอบ | จุดเฟิงหลง เพื่อระบายเสมหะ และจุดชี่ไห่ เพื่อทะลวงเส้นลมปราณ |
ผลการรักษา :
ครั้งที่ 1 | หลังจากการฝังเข็มครั้งที่ 1 ผู้ป่วยรู้สึกว่า อาการปวด แน่น และจุกบริเวณลิ้นปี่หายไป อาการอื่น ๆ ยังหลงเหลืออยู่บ้าง |
ครั้งที่ 2 | หลังจากได้รับการฝังเข็มครั้งที่ 2 ผู้ป่วยรู้สึกสบายบริเวณหน้าอกมากขึ้น และสามารถกลืนอาหารและน้ำได้สะดวกมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน แต่ยังรู้สึกมีก้อนอยู่บริเวณคออยู่ |
ครั้งที่ 3 | หลังจากการฝังเข็มครั้งที่ 3 ผู้ป่วยแจ้งว่า สามารถกลืนอาหารและน้ำได้ตามปกติ และก้อนบริเวณคอหายไป |
หลังจากนั้นผู้ป่วยยังเข้ารับการฝังเข็มอีก 1 ครั้งเพื่อติดตามอาการ และไม่มีความผิดปกติใดเพิ่มเติม
บทสรุปและข้อเสนอแนะ
โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่พบมานานแล้ว จึงไม่ใช่โรคแปลกใหม่ แต่ในปัจจุบันกลับมีอัตราการพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งวิธีการที่จะสามารถป้องกันตนเองจากโรคกรดไหลย้อนหรือป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำอีก คือ การปรับเปลี่ยนนิสัยและการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต คือ ควบคุมน้ำหนัก บริหารอารมณ์ให้ดี
2. การเลือกรับประทานอาหาร คือ งดอาการรสจัดและอาหารที่มีไขมันสูง ทานอาหารแต่พอดี งดมื้อดึก และไม่นอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร
3. การปรับเวลาและวิธีในการนอน ไม่นอนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ และไม่นอนบนพื้นราบ ควรใช้หมอนหนุนให้ศีรษะสูงขึ้นพอประมาณ
หากสามารถรักษาสมดุลได้ จะทำให้ห่างไกลจากโรคกรดไหลย้อนได้ในที่สุด
------------------------
บทความโดย
แพทย์จีนริฟฮาน ยูโซะ (หมอจีน หลัว หรู ซาน)
罗如珊 中医师
TCM. Dr. Rifhan Yusoh (Luo Ru Shan)
แผนกฝังเข็ม
6 ธ.ค. 2567
9 ธ.ค. 2567
6 ธ.ค. 2567