Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 16353 จำนวนผู้เข้าชม |
"เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่" ตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีน ได้อธิบายเอาไว้ว่า การที่เยื่อบุโพรงบุมดลูกมีการเจริญผิดที่นั้น มีสาเหตุหลักมาจากเลือดคั่งที่เส้นลมปราณชงและเหริน (เส้นลมปราณชงและเหริน คือ เส้นลมปราณที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน) โดยที่มดลูกถือเป็นสาเหตุหลัก และยังมีอีก 5 สาเหตุ ที่สามารถทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้เช่นเดียวกัน คือ
1. ชี่ (ลมปราณ) ติดขัดก่อเกิดเลือดคั่ง โดยผู้ที่มีความเครียดหรืออารมณ์หงุดหงิดแปรปรวนอยู่เสมอ จะส่งผลกระทบต่อตับ ทำให้การหมุนเวียนของลมปราณไม่ระบาย เลือดจึงเดินไม่สะดวก นานวันจึงเกิดเป็นก้อนขึ้น
2. ความเย็นอุดกั้นก่อเกิดเลือดคั่ง โดยระหว่างมีประจำเดือนหรือหลังคลอด เส้นลมปราณของมดลูกจะอ่อนแอ ทำให้ง่ายต่อการรับเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย และง่ายต่อการกระทบกับความเย็น หรือ ตากฝน หรืออยู่ในที่เย็น ๆ เป็นเวลานานก็ส่งผลให้ความเย็นมาอุดกั้นบริเวณมดลูก เส้นลมปราณของมดลูก จึงเกิดเป็นก้อนขึ้น
3. ความร้อนก่อเกิดเลือดคั่ง เมื่อร่างกายมีความร้อนสูง หรือลมปราณที่ตับติดขัดเป็นเวลานานจะทำให้เกิดความร้อนขึ้น หรือได้รับความร้อนซึ่งจะก่อให้เกิดโรคขึ้น หรือทานอาหารที่มีเผ็ดร้อนมากเกินไป หรือร่างกายมีความชื้นมากเกินไปจนกลายเป็นความร้อน ส่งผลให้ไปทำลายเส้นลมปราณของมดลูก เลือดจึงออกมาจากเส้นลมปราณโดยมีลักษณะเหนียวและแข็ง จึงทำให้เกิดเป็นก้อนอุดกั้นเส้นลมปราณชงและเหริน ทำให้เกิดก้อนขึ้น
4. ลมปราณ (ชี่) อ่อนแรงก่อเกิดเลือดคั่ง เมื่อลมปราณของม้ามอ่อนกำลังลง อันเนื่องมาจาก การกิน การทำงานที่หนักเกินไป หรือร่างกายผ่านการเจ็บป่วยมานาน ส่งผลให้เลือดและลมปราณ (ชี่) ถูกทำลาย
5. ไตอ่อนแอก่อเกิดเลือดคั่ง ไตอ่อนกำลังอาจเป็นมาแต่กำเนิดหรือ เนื่องมาจากการทำงานหนักเกินไป ขาดการพักผ่อน หรือ การมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป ส่งผลให้ไตอ่อนกำลัง และเมื่อลมปราณ (ชี่) ของไตเมื่ออ่อนกำลัง พลังหยางในร่างกายไม่เพียงพอ จะทำให้ความร้อนที่หมุนเวียนในร่างกายถดถอย เลือดในเส้นลมปราณจึงเหนียวข้นเกิดเป็นก้อนขึ้น
ทั้งนี้ ในผู้ที่เป็นช็อกโกแลตซีส (Chocolate Cyst) หรือ ภาวะมดลูกโต (Adenomysis) ก็ล้วนแล้วแต่เกิดมาจาก "เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่" (endomertriosis) ทั้งสิ้น
โดยสาเหตุของการเกิดโรคช็อกโกแลตซีส (Chocolate Cyst) ก็มาจากการที่เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ ซึ่งโดยตามหลักแล้วเลือดประจำเดือนจะต้องไหลออกมาเป็นประจำเดือน แต่เลือดประจำเดือนกลับไหลย้อนกลับโดยผ่านไปทางท่อนำไข่แล้วไหลเข้าไปฝังตัวในอวัยวะอื่น ๆ ในช่องท้อง เช่น รังไข่ ท่อนำไข่ อุ้งเชิงกราณ ลำไส้ ทวารหนัก เป็นต้น โดยหากบริเวณรังไข่มีฮอร์โมนเพศ (ฮอร์โมนเอสโตรเจน) สูง จะยิ่งเป็นการช่วยให้ซิสมีการเจริญเติบโตขึ้นไปอีก โดยส่วนใหญ่แล้ว มักไม่ปรากฎอาการใด ๆ และมักจะตรวจพบเมื่อทำการอัลตร้าซาวด์ดูเท่านั้น
และสาเหตุของการเกิดภาวะมดลูกโต (Adenomysis) เนื่องมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมีการแทรกเข้าไปเจริญเติบโตที่ (ภายใน) กล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทั้งสองโรคนี้ก็ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยากด้วยเช่นกัน
บทความโดย
แพทย์จีน ธนภร ตันสกุล (เฉิน รุ่ย อิ๋น)
เลขที่ใบประกอบโรคศิลปะ พจ.25
คลินิกอายุรกรรมนรีเวช
25 ต.ค. 2567
11 พ.ย. 2567
11 พ.ย. 2567