สาเหตุของภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาทในผู้สูงอายุ

Last updated: 22 ม.ค. 2568  |  7 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สาเหตุของภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาทในผู้สูงอายุ

สาเหตุของภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาทในผู้สูงอายุ
(Herniated Disc in the Elderly)


ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาทในผู้สูงอายุคือผู้ป่วยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและได้รับการวินิจฉัยเป็น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวทับเส้นประสาท เนื่องจากการเสื่อมสภาพของข้อกระดูกสันหลังทรุดตัว    ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการสร้างกระดูกงอกหรือหินปูนขึ้นเพื่อต้านการทรุดตัวและไปกดทับเส้นประสาท หรือบางครั้งอาจเกิดจากการที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท
มุมมอง แพทย์แผนปัจจุบัน 

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นรวมถึงการทำงานในชีวิตประจำวันหมอนรองกระดูกสันหลัง-ได้รับแรงกด แรงบิด และแรงดึงเข้ามากระทำ ทำให้หมอนรองกระดูกค่อย ๆ เกิดการเสื่อมสภาพสารน้ำและความยืดหยุ่นของ Nucleus Pulposus ค่อย ๆ ลดลง จากนั้นความสูงของหมอนรองกระดูกก็จะลดลงไปด้วย เส้นเอ็นที่อยู่โดยรอบเกิดการหย่อนตัวลง  หรือเกิดจากปัจจัยภายในที่ ปริแตกของหมอนรองกระดูกทำให้ Nucleus Pulposus ปริ้นออกมาด้านนอกกดทับเส้นประสาท ปัจจัยภายนอกมักเกิดจากการบาดเจ็บจากระยะเฉียบพลันและระยะเรื้อรัง เมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังได้รับแรงกดดันอย่างฉับพลันหรือต่อเนื่อง    เช่น การก้มยกของหนัก การยืนเดินนั่งนอนในท่าทางที่ไม่เหมาะสม การเคลื่อนย้ายสิ่งของ การยกของหนักในลักษณะท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือ ก้มทำงานเป็นระยะเวลานานแล้วเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงไปทางด้านหลัง ทำให้หมอนรองกระดูกด้านหลังได้รับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นทำให้ Anulus Fibrosus เกิดการปริแตก และดัน Nucleus Pulposus ออกไปทางดันหลังมากดทับเส้นประสาท

มุมมอง แพทย์แผนจีน 

ภาวะหมอนรองกระดูกส่วนเอวทับเส้นประสาท จัดอยู่ในกลุ่ม เยาท้ง (ปวดเอว) ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนเอวในผู้สูงอายุมีความสัมพันธ์กับ อายุ การเพิ่มลดของเลือดชี่ ความแข็งแรงของกระดูก และเส้นเอ็น ในคัมภีร์หวงตี้เน่ย์จิง ได้กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายของแต่ละช่วงวัย เมื่ออายุถึงวัยกลางคน ผู้หญิงอายุ 35-49 ปี และผู้ชายอายุ 40-64 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย โดยมีสาเหตุจากภายในและภายนอก ดังนี้

สาเหตุจากภายใน คือ ชี่ตับไตพร่อง สารจิงในไตถดถอย ไตเป็นอวัยวะคู่สัมพันธ์กับกระดูก ผลิตไขกระดูก ตับเป็นอวัยวะคู่สัมพันธ์กับเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ เก็บกักเลือด กระดูกอาศัยกล้ามเนื้อประคับประคองให้ตั้งมั่น เมื่อตับพร่อง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นไม่แข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นมีปัญหา ในระยะยาวสามารถส่งผลให้เป็นโรคกระดูกได้ นอกจากนี้ ตับและไตมีต้นกำเนิดเดียวกัน ( 肝肾同源 ) สารจิงในไตและเลือดในตับ มีต้นกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน เมื่อใดที่เลือดในตับพร่องลง ย่อมส่งผลให้สารจิงในไตพร่องลงไปด้วย สารจิงและเลือดพร่องลงไม่สามารถหล่อเลี้ยงกระดูก ส่งผลต่อการเสริมสร้างและความแข็งแรงของกระดูก กระดูกสันหลังส่วนเอวและเส้นเอ็นเสื่อมสภาพ 

สาเหตุจากภายนอก คือ ปัจจัยก่อโรคจากภายนอก (เสียชี่邪气เช่น ลม ความเย็น ความชื้น)  รุกรานเข้าสู่ร่างกาย หรือการบาดเจ็บจากการทำงานหนัก ทำให้เส้นลมปราณติดขัด ชี่และเลือดไหลเวียนไม่สะดวก ถูกสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ     เส้นเอ็นและข้อต่อจนเกิดอาการปวด 


จะมีอาการอย่างไร

 มีอาการปวดเอว ปวดสะโพกร้าวลงขา อาการจะปวดมากขึ้นเมื่อ 

เกิดจากแรงดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น เช่น การไอ จาม หรือการเบ่งอุจจาระ 
การเคลื่อนไหวในท่าทางที่ทำให้เส้นประสาทถูกดึงยืดจะทำให้มีอาการปวดมากขึ้น เช่น การเดิน การก้ม หรือการลุกขึ้นจากเก้าอี้ เป็นต้น ไม่สามารถก้มไปทางด้านหน้าได้ เมื่องอเข่าเข้ามาติดกับลำตัว หรือการนอนพักอาการจะดีขึ้น ในผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างหนักจะเคลื่อนไหวตัวลำบากจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น พลิกตัวยากลำบาก 
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เป็นระยะเวลานานบริเวณที่มีอาการปวดร้าวลงขาจะมีความรู้สึกชา รู้สึกเย็น ๆ ที่บริเวณผิวหนัง และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ที่หมอนรองกระดูกปริ้นออกมาตรงกลางของกระดูกสันหลัง (central disc herniation)ไปกดทับ Cauda Equina จะมีอาการชาบริเวณอวัยวะเพศ ปวดเหมือนถูกเข็มแทง การขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะมีปัญหา เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนขยับไม่ได้  ผู้ป่วยบางรายมีอาการปวดขาในช่วงระยะแรกแต่ไม่มีอาการปวดเอว


สามารถรักษาได้หรือไม่

ในทางแพทย์แผนจีน รักษาด้วยการนวดทุยหนาหรือการฝังเข็มเป็นหลัก ร่วมกับการทำดึงหลัง (traction) หรือการใช้ยาสมุนไพรจีน รวมไปถึงการฝึกท่ากายบริหาร ซึ่งผลการรักษาขึ้นอยู่กับความหนักเบาของแต่ละบุคคล เช่น

ในกรณีที่ไม่รุนแรงมาก อาการปวดอยู่ในระดับน้อยหรือปานกลาง สามารถเคลื่อนไหวหรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้ แนะนำการรักษาด้วยนวดทุยหนาหรือการฝังเข็ม เห็นผลค่อนข้างดี ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1-2 เดือน 

ในกรณีที่รุนแรง ระดับอาการปวดมาก เคลื่อนไหวลำบาก กระทบการใช้งานในชีวิตประจำวัน ควบคุมการขับถ่ายลำบาก ผลการรักษาจะค่อนข้างช้า ใช้เวลาในการรักษามากกว่า 3 เดือน ร่วมกับการใช้ยาสมุนไพรจีนหรือยาแผนปัจจุบันได้

------------------------

บทความโดย

แพทย์จีน กรกฎ คุณโฑ (โจว เฉิง)
周承 中医师
TCM. Dr. Koraghod Khuntho (Zhou Cheng)
แผนกกระดูกและทุยหนา 骨伤推拿科 (Orthopedic and Tuina TCM Department)


เอกสารอ้างอิง

กรมพัฒนากรแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข.  การฝังเข็ม รมยา เล่ม 3.  นนทบุรี : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2554
腰椎间盘突出的中医辨证分型. สืบค้น 3 กรกฎาคม2565,  จาก https://health.baidu.com/m/detail/ar_8187581673701741950  
การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน สืบค้น 7 กรกฎาคม2565,  จาก  https://www.huachiewtcm.com/การรักษาแบบแผนจีนมีอะไรบ้าง
ผศ.นพ.ต่อพงษ์ บุญมาประเสริฐ (2557) ปวดหลัง-ปวดคอ (LOW BACK & NECK PAIN) และ โรคข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อม (DEGENERATIVE DISEASES OF THE SPINE) หน่วยโรคกระดูกสันหลัง ภาควิชาออร์โทปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้