Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 1085 จำนวนผู้เข้าชม |
คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว จัดโครงการบรรยายความรู้ภาคประชาชน ประจำปี 2566 ในรูปแบบกิจกรรมเสวนาภาษาหมอจีน เพื่อเผยแพร่ความรู้เบื้องต้นที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนจีนสู่ภาคประชาชน นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยในวันนี้ (26 กรกฎาคม 2566) ได้จัดเสวนาในหัวข้อ "โรคฮิตติดจอ (Computer Vision Syndrome : CVS)" บรรยายโดย แพทย์จีน ปิยะมาศ เมืองใชย แผนกฝังเข็ม 针灸科 (Acupuncture Department)
เชื่อว่าบรรดาพนักงานออฟฟิศหรือสายโซเชียล รวมถึงนักเรียน นักศึกษา จะใช้เวลาแทบจะทั้งวันทั้งคืนกับหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอแพด ทั้งในการเรียนออนไลน์ ประชุม ทำธุรกิจการค้า ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพดวงตา เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา ปวดกระบอกตา และอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ ร่วมด้วย กลุ่มอาการเหล่านี้เราเรียกว่า โรคฮิตติดจอ หรือ Computer Vision Syndrome : CVS ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มตามระยะเวลาการใช้งานหน้าจอ จากงานวิจัยพบว่า 90% ของผู้ใช้งานหน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวันจะได้รับผลกระทบจากโรคนี้
ในมุมมองของศาสตร์การแพทย์แผนจีน บอกสาเหตุได้ดังนี้
· ตาล้า เกิดจาก ชี่และเลือดไม่เพียงพอ หรือสารน้ำในร่างกายลดลง ทำให้ดวงตาขาดการหล่อเลี้ยง
· การเพ่งมองนาน ทำลายเลือด
· การนอนดึก ทำลายตับและไต ทำให้เลือดของตับ สารจิงของไต ถูกทำลาย
นอกจากนี้ ในดวงตาจะมีความสัมพันธ์กับอวัยวะในร่างกาย คือ
1. ตับ – ตับเปิดทวารที่ตา เลือดของตับจะบำรุงตา หากมีความเครียดหรือโมโหง่าย จะส่งผลให้เลือดของตับลดลง
2. ไต – รูม่านตาจะสัมพันธ์กับไต ถ้าสารจิงของไตมีเพียงพอ ดวงตาจะสดใสมีประกาย
3. ม้าม – อาหารมัน เลี่ยน มีรสหวาน ทำให้ม้ามทำงานได้ไม่ดี ชี่และเลือดที่หล่อเลี้ยงดวงตาจะลดลง
แพทย์จีนปิยะมาศ ได้ให้หลักการรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน ด้วยการ กระจายชี่ตับ คลายเครียด เพิ่มการไหลเวียนเลือด สลายเลือดคั่ง บำรุงตับและไต บำรุงชี่และเลือด พร้อมกับแนะนำแนวทางการป้องกันอาการต่าง ๆ ของดวงตาไว้ดังนี้
1. ปรับท่านั่งทำงานให้เหมาะสม : จอคอมพิวเตอร์ควรห่างจากตา 20-28 นิ้ว และต่ำกว่าระดับสายตา 15-20 องศา และวางเอกสารอยู่ระดับและระยะเดียวกับหน้าจอ เพื่อจะได้ไม่ต้องขยับศีรษะและเปลี่ยนโฟกัสสายตา แป้นพิมพ์และเม้าส์อยู่ต่ำกว่าหน้าจอ ข้อศอกตั้งฉาก ข้อมือและแขนขนานกับที่พักแขน ฝ่าเท้าวางราบกับพื้น เข่าตั้งฉาก มีพนักพิงหลัง
2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสมกับดวงตา : ปรับความสว่างของหน้าจอ เลือกสีพื้นจอและตัวอักษรที่มองเห็นได้ชัดและสบายตาที่สุด ปรับแสงสว่างในห้องให้เหมาะสม
3. กำหนดระยะเวลาการใช้งานสายตาอย่างเหมาะสม (20-20-20) : ใช้สายตา 20 นาที พักสายตา 20 วินาที โดยมองออกไปไกลๆ อย่างน้อย 20 ฟุต เพื่อลดการเพ่งของดวงตา กระพริบตาบ่อยขึ้น เพื่อช่วยลดอาการตาแห้ง
4. ดูแลสุขภาพดวงตา : ตรวจสายตาปีละ 1 ครั้ง และสวมใส่แว่นสายตาหรือแว่นกรองแสง
นอกจากนี้ยังได้แนะนำอาหารเพื่อบำรุงสายตา ได้แก่ ผักและผลไม้หลากสี อาทิ แครอท ฟักทอง ปวยเล้ง คะน้า ซึ่งเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสายตา และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้อีกด้วย ปิดท้ายกับกิจกรรม Workshop สาธิตวิธีการนวดบริหารดวงตาแบบง่าย ๆ และสอนการทำ “ชาสมุนไพรจีนช่วยบำรุงสายตา” ให้กับผู้ที่มาร่วมงานเสวนา บรรยากาศในงานนอกจากจะได้รับความรู้ คำแนะนำอันเป็นประโยชน์ที่สามารถนำกลับไปปฏิบัติเองที่บ้านได้แล้ว ยังอบอวลไปด้วยความอบอุ่น และความประทับใจ ผ่านกิจกรรมดี ๆ ที่คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวตั้งใจจัดขึ้นในครั้งนี้