กวาซาบนใบหน้าวิธีการปรนนิบัติผิวตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน

คำว่ากวาซา มาจากคำว่า กวา(刮) หมายถึง การขูด  และคำว่าซา (痧) หมายถึง ลักษณะอาการต่างๆ เช่นรอยจ้ำสีแดง  สีม่วง หรือจุดสีดำ ที่ปรากฏหลังการขูด การกวาซา(刮痧) คือการรักษาโดยการใช้อุปกรณ์เฉพาะที่มีความเรียบลื่น โค้งมน มาขูดบริเวณผิวหนังจนเกิดรอยจ้ำสีต่างๆ โดยต้องใช้ตัวหล่อลื่นเข้ามาช่วยเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและอาการระคายเคืองในขณะที่ขูด รวมถึงสรรพคุณของสารที่นำมาใช้ เช่น ยาหม่อง น้ำมัน ครีม เป็นต้น  

การกวาซาจะช่วยกระตุ้นเส้นลมปราณ กระตุ้นการไหลเวียนของชี่และเลือด ปรับสมดุลอินหยาง ลดความร้อน ลดบวม ไล่ความชื้น สลายก้อน ขับพิษ รอยจ้ำสีต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากการกวาซาจะมีสีที่แสดงออกมาจะแตกต่างกัน ตามภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล  

การกวาซาได้รับการเผยแพร่มาเป็นเวลานานในประวัติศาสตร์จีนเนื่องจากเป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ ให้ผลดี และผลข้างเคียงน้อย การกวาซามีบันทึกครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ถัง唐朝 《扁鹊传》 และมีการบันทึกการรักษาด้วยวิธีการกวาซาอย่างมากมายในเวลาต่อมา

การกวาซาสามารถทำได้ในหลายตำแหน่งทั่วร่างกาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการกวาซาบริเวณใบหน้ากันค่ะ

การกวาซาบนใบหน้า เป็นวิธีการรักษาและปรนนิบัติผิวตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน โดยการนำแผ่นหยกมาขูดเบาๆ บริเวณผิวหน้าตามเส้นลมปราณ เพื่อช่วยในการขจัดของเสีย การกวาซาใบหน้า ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของ ชี่และเลือด แต่ยังเพิ่มการไหลเวียนของน้ำเหลืองและของเหลวในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อมัดต่างๆ และ กระตุ้นจุดลมปราณต่างๆบริเวณใบหน้า กระตุ้นการขนส่งสารอาหาร เร่งการเผาผลาญของเซลล์  ปรับสมดุลน้ำและน้ำมัน ใต้ผิวหนัง รักษาความยืดหยุ่นของเส้นใยใต้ผิวหนัง

โดยทั่วไปแล้วการกวาซาบริเวณใบหน้า จะไม่ทำให้เกิดรอยจ้ำแดงๆ หรือก่อให้เกิดความเจ็บปวด ทิ้งไว้บนใบหน้า แต่จะเป็นการขูดเบาๆ เพื่อให้เกิดสีชมพูระเรื่อ หรือขูดกระตุ้นให้ใบหน้ารู้สึกร้อนเล็กน้อย ให้ใบหน้ามีเลือดฝาด และส่งเสริมการฟื้นฟูผิวหน้า จะช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวพรรณผ่องใสอมชมพูสุขภาพดี

การกวาซาใบหน้า เหมาะกับใคร ?

- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

- ผิวหนังหย่อนคล้อยไม่กระชับ บวมน้ำ

- ผิวหน้าแก่ก่อนวัย มีริ้วรอย   

- ใบหน้าและศีรษะปวดตึงจากความเครียด


คำแนะนำ

ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อสุขภาพผิวที่ดี

ดื่มน้ำอุ่นหลังทำหัตถการ 1 แก้ว

ไม่แนะนำ สำหรับผู้ที่เป็นสิวอักเสบ หรือ บริเวณผิวหนังที่มีการอักเสบ ติดเชื้อ  

ไม่ควรอาบน้ำเย็น หรือโดนพัดลมเป่าโดยตรง หลังทำหัตถการเสร็จ 2-3 ชั่วโมง

หากไม่มั่นใจว่าผิวของเราเหมาะสมทำการกวาซาได้หรือไม่สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษา