Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 10339 จำนวนผู้เข้าชม |
ทานยาสมุนไพรจีนมีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
ยาสมุนไพรจีน สมุนไพรไทย และยาแผนปัจจุบัน รวมทั้งยาทุกชนิดทุกประเภท ต่างก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่แล้วยาสมุนไพรจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น อาการ คลื่นไส้ อาเจียน แพ้ผื่น หรือผลข้างเคียงที่รุนแรง (ความเป็นพิษต่อตับ ไต หรืออวัยวะอื่น) ซึ่งผลข้างเคียงและความเป็นพิษก็จะมีหลายปัจจัย เช่น สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล อายุ เพศ ปริมาณยา ระยะเวลาและวิธีการใช้ยา
นอกจากนี้การใช้ยาหลายชนิดร่วมกันในการรักษารวมถึงอาหารที่รับประทาน อาจทำให้เกิดอันตรกิริยาของยากันเองหรือยากับอาหารทำให้มีผลต่อระบบต่างๆของร่างกายได้
หากรับประทานยาสมุนไพรจีนแล้วเกิดผลข้างเคียงหรือผลอันไม่พึงประสงค์ขึ้น ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ ในการใช้สมุนไพรจีน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลของแพทย์จีน จะทำให้การใช้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สมุนไพรจีนสามารถทานคู่กับยาแผนปัจจุบันได้หรือไม่ ?
หลักพิจารณาการใช้ยาสมุนไพรจีนร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ต้องดูตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย ความรุนแรงของโรคที่เป็น รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ ต้องแจ้งประวัติการใช้ยาให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณา ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในการเลือกใช้ยา โดยทั่วไปแล้วหากใช้ร่วมกัน ควรเว้นช่วงการรับประทานยาสมุนไพรจีนและยาแผนปัจจุบันให้ห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง
รูปแบบยาต้ม ยาผงเคอลี่ ยาเม็ดสำเร็จรูป มีความเหมาะสมกับผู้ป่วยกลุ่มใด และให้ผลการรักษาที่แตกต่างกันหรือไม่ ?
ยาต้ม คือการนำยาสมุนไพรจีน (อิ่นเพี่ยน) มาต้มกับน้ำ แล้วรับประทานโดยทั่วไปแล้วยาต้มนั้นเหมาะสมกับโรคในระยะเฉียบพลันและที่มีอาการรุนแรง เนื่องจากรูปแบบยาต้มสามารถดูดซึมผ่านลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดและออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว มีจุดเด่นตรงที่แพทย์สามารถตั้งสูตรตำรับปรับชนิดของยาและปริมาณให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเฉพาะรายได้ ทำให้ผลการรักษานั้นได้ผลดี แต่มีข้อด้อยตรงที่วิธีการต้มยาที่ใช้เวลานานและการพกพาอาจจะไม่สะดวก มีกลิ่นและรสยาที่ค่อนข้างฉุน
ยาเคอลี่ คือการนำยาสมุนไพรจีน (อิ่นเพี่ยน) มาผ่านกรรมวิธีการสกัดแล้วทำให้แห้งอยู่ในรูปแบบผงที่มีลักษณะเป็นเกล็ด โดยทั่วไปแล้วมีความเข้มข้นสูงกว่ายาต้ม จึงทำให้ขนาดของยาที่รับประทานนั้นน้อยกว่า มีความสะดวกในการพกพา เพียงแค่ผสมชงกับน้ำอุ่นก็สามารถรับประทานได้ทันที มีกลิ่นและรสของยาที่อ่อนลง ทั้งนี้แพทย์จีนจะเป็นผู้ที่กำหนดขนาดรับประทานเคอลี่โดยเปรียบเทียบกับยาต้ม
ยาสำเร็จรูป คือยาเตรียมรูปแบบต่าง ๆ ที่มีหลากหลาย มีรูปแบบในการรับประทานที่พบเห็นทั่วไป เช่น แคปซูล ยาเม็ดลูกกลอน ยาเม็ดตอก (tablet) รูปแบบยาใช้ภายนอก เช่น ยาผง ยาขี้ผึ้ง ครีม โดยทั่วไปยาสำเร็จรูปนั้นเหมาะกับโรคเรื้อรัง หรืออาการของโรคไม่รุนแรงมากนัก ใช้ในการรักษาควบคุมอาการของโรคในระยะยาว และใช้กับกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป จะไม่ได้เฉพาะเจาะจงต่อผู้ป่วยรายใดรายหนึ่งเหมือนกับยาต้มหรือยาเคอลี่
แพทย์แผนจีนจะเป็นผู้พิจารณาเลือกรูปแบบยาให้ตรงกับผู้ป่วย โดยจะพิจารณาโรคที่เป็น รวมถึงความรุนแรงของอาการและช่วงระยะเวลารักษา การดำเนินของโรคอยู่ในช่วงใด โดยหากเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม ข้อเด่นข้อด้อยของยาแต่ละรูปแบบก็จะให้ผลการรักษาที่ดีเช่นกัน
ยาสมุนไพรจีนมีสเตียรอยด์หรือไม่ ?
โดยธรรมชาติของสมุนไพรจะไม่มียาสเตียรอยด์ที่เป็นสารสังเคราะห์ ซึ่งสเตียรอยด์ที่เป็นสารสังเคราะห์นั้นถือได้ว่าเป็นยาที่มีคุณอนันต์ เมื่อนำมาใช้ในการรักษาทางคลินิกจะให้ผลการรักษาที่เห็นผลรวดเร็ว
แต่ในทางกลับกันก็นำมาซึ่งผลข้างเคียงมากมาย โดยจะส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต่อมไร้ท่อ และอื่นๆ จึงได้มีผู้หวังจะใช้ประโยชน์จากสเตียรอยด์สังเคราะห์ นำมาปนปลอมในยาสมุนไพรรูปแบบต่าง ๆ โดยที่พบส่วนมากจะเป็นยาเม็ดลูกกลอน ซึ่งความจริงแล้วยาเม็ดลูกกลอนเป็นการนำผงยาสมุนไพรหลายชนิดมาผสมกับน้ำผึ้งซึ่งเป็นกระสายยาปั้นให้เป็นลูกกลอน ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์สังเคราะห์ แต่มีองค์ประกอบที่หลากหลายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคต่าง ๆ โดยทั่วไปสมุนไพรบ้างชนิดอาจจะมีสารสเตียรอยด์ตามธรรมชาติ (Natural Steroid) ซึ่งไม่เหมือนกับยาสเตียรอยด์สังเคราะห์ (Synthetic Steroid) จึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ดังนั้น การใช้ยารูปแบบยาลูกกลอนหรือรูปแบบอื่นๆ ควรจะพิจารณาเลือกโดยดูจากฉลากยาว่ามีการขึ้นทะเบียนตำรับยาถูกต้องหรือไม่ มีการระบุองค์ประกอบของยาอย่างชัดเจนหรือไม่ รวมถึงสามารถคัดกรองการปนปลอมยาสเตียรอยด์สังเคราะห์ จากชุดตรวจสารสเตียรอยด์สังเคราะห์ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตรวจไปยังห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้ยา
จะมั่นใจได้อย่างไรว่ายาจีนมีความปลอดภัยและมีคุณภาพ ?
การเลือกใช้ยาสมุนไพรจีน สามารถพิจารณาจากแหล่งผลิตและสถานประกอบโรคศิลปะว่าได้รับอนุญาตถูกกฏหมายหรือไม่ ถ้าเป็นยาสมุนไพรจีนที่นำไปต้มเอง อาจพิจารณาเลือกจากความน่าเชื่อถือของสถานประกอบการรวมถึงแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสมุนไพรที่ดีและมีความปลอดภัยในการนำมาใช้จะเลือกจากแหล่งผลิตหรือแหล่งเพาะปลูกที่ได้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) และเมื่อนำมาผลิตเป็นรูปแบบต่างๆ ก็จะผ่านมาตรฐานการผลิต GMP (Good Manufacturing Practice) นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาจากความถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การขึ้นทะเบียนตำรับยา แหล่งผลิต เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย
.
สอบถามข้อมูลการใช้ยาสมุนไพรจีน
และข้อมูลเกี่ยวกับงานบริการของฝ่ายเภสัชกรรมเพื่อการใช้ยาจีนได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
LINE@ : @pharmacytcm
โทรศัพท์ : 02 223 1111 ต่อ 162, 163
ทุกวัน ในเวลาทำการ 8.00 น. -16.00 น.
27 มิ.ย. 2566
21 ต.ค. 2567