Last updated: 2 ส.ค. 2567 | 620 จำนวนผู้เข้าชม |
สภาพสังคมไทยในปัจจุบัน การดำเนินชิวิตค่อนข้างรีบเร่ง ต้องทำงานแข่งกับเวลา บางคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนทำให้เป็นที่มาโรคของมนุษย์ทำงาน หรือโรคที่เกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ซึ่งน่าจะเป็นรู้จักกันในชื่อว่า โรค NCDs ย่อมาจากคำเต็มว่า Non-Communicable Diseases ได้แก่ 4 กลุ่มโรคใหญ่ คือ 1.กลุ่มโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด 2.เบาหวาน 3.มะเร็ง และ 4.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ซึ่งโรคเหล่านี้ไม่สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้โดยตรง แต่ก็อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้เกิดจากการใช้ชีวิต การทานอาหารที่ไม่เหมาะสม นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เคร่งเครียดทั้งการงานและครอบครัว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นสะสมมาเป็นเวลายาวนาน และการดำเนินของโรคเป็นไปอย่างเชื่องช้า
หนึ่งในกลุ่มโรคที่หลายๆ คนกังวล ก็คือ โรคมะเร็ง ซึ่งถือว่าเป็นโรคของมนุษย์ทำงานอย่างเราที่หลีกเลี่ยงได้ยากหากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมต่างๆ จะทำให้เซลล์ปกติในร่างกายเราพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ที่ไม่ปกติได้ ในปัจจุบันเชื่อว่า หลายๆ ท่านเองก็รู้สึกว่าทำเป็นมะเร็งมันเป็นกันง่ายจังเลย ข่าวที่ออกมาในช่วงหลังๆ จะพบว่าเจอปุ๊ป ระยะที่เป็นก็ไปไกลเสียแล้ว แต่ความจริงแล้วนั้นโรคมะเร็งก็ถือว่าเป็นโรคเรื้อรังอย่างหนึ่ง ก่อนที่โรคจะแสดงตัวตนให้เราได้รู้ มีดำเนินโรคค่อนข้างยาวนาน มีตั้งแต่ 10 ปี ไปจนถึง 20-30 ปีก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าหากว่าเรามาหยุด Stop การดำเนินไปของโรคได้นั่นก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า รอให้ตรวจเจอแล้วค่อยมารักษา หากเป็นแล้วค่อยมารักษาในบางโรคหรือบางระยะนั้นรักษาได้ยากลำบากทีเดียว ในระยะที่ก่อนจะป่วยตรงนี้ กลไกการที่จะนำไปสู่มะเร็งยังสามารถที่จะวกกลับได้ แต่หากเป็นแล้วจะวกกลับไปเหมือนปกติดังเดิมนั้นทำได้ยาก
ศาสตร์การแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญที่คนและให้การรักษาแบบองค์รวม เน้นการป้องกันโรคมากกว่ารักษา เน้นรักษาที่คนมากว่ารักษาที่โรค ในคัมภีร์โบราณหวงตี้เน่ยจิง กล่าวไว้ว่า....
“上工治未病,不治已病” ซ่างกงจื้อเว่ยปิ้ง ปู้จื้ออี่ปิ้ง = หมอชั้นเลิศรักษาก่อนที่จะป่วย ไม่รักษาโรคที่เป็นแล้ว
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับการป้องกันดูแลสุขภาพ ซึ่งมีได้ 3 ประการด้วยกัน คือ ป้องกันก่อนป่วย ป้องกันก่อนที่โรคจะดำเนินพัฒนาต่อไป และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ดังนั้น การป้องกันก่อนป่วยสามารถดูแลได้จากตัวเราเอง บางครั้งอาจมีอาการไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้รบกวนการใช้ชีวิต ซึ่งหลายๆ คนมักจะไม่ได้ใส่ใจ อาการอะไรบ้างที่เราพอจะสังเกตบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงไปของร่างกายเรา ถึงแม้ว่าการตรวจร่างกาย ผลแลปต่างๆ ยังไม่มีความผิดปกติใด แต่เราควรใส่ใจให้มากขึ้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรีบรักษาก่อนที่โรคจะพัฒนา
สัญญาณเตือนก่อนเป็นมะเร็งที่ควรรีบจัดการ มีอะไรบ้าง ?
สัญญาณเตือนก่อนป่วย/ก่อนที่โรคจะพัฒนา | อาการน่าสงสัย | แนวโน้มอาจเป็นโรค |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วิธี “รักษาหรือป้องกันก่อนป่วย” เพื่อปรับเปลี่ยนร่างกายให้ย้อนคืนความสมดุลอยู่เสมอ เสริมสร้างเจิ้งชี่ให้ร่างกายของเราแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ ประการแรกคือ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมก่อน เปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารใหม่ ทานอาหารให้หลากหลาย รสไม่จัดจ้านเกินไป ทานอาหารให้เป็นเวลา 3 มื้อ มื้อเช้าและกลางวันเป็นมื้อที่สำคัญ มื้อเย็นทานแต่น้อยได้; นอนหลับพักผ่อนยามค่ำคืนและตื่นนอนตอนเช้าตามนาฬิกาชีวิต; ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ หรือเปลี่ยนบรรยายกาศออกนอกเมืองหนีจากความวุ่นวายไปพักผ่อนบ้าง ให้เวลากับตัวเองบ้าง ผ่อนคลายจิตใจ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เซลล์ต่างๆ ที่ผิดปกติกลับมาดีดังเดิม และทำให้เรามีทั้งสุขภาพแข็งแรง และจิตใจแจ่มใส ห่างไกลโรคได้
นอกเหนือจากการที่เราสนใจสุขภาพร่างกายมากขึ้นแล้ว ประการสุดท้ายเมื่อรู้ตัวว่าไม่สบายควรปรึกษาแพทย์วินิจฉัยและรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม ถ้าหากคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพแม้เพียงเล็กน้อย ควรรีบพบแพทย์รักษา หรืออาจปรึกษาแพทย์จีนเพื่อตรวจวิเคราะห์สภาวะของร่างกายว่าควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไรที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล อย่าปล่อยทิ้งไว้จนเป็นปัญหาเรื้อรัง นอกจะรักษาได้ยากแล้ว อาจนำไปสู่โรคร้ายที่เราคาดไม่ถึงได้
------------------------
บทความโดย
แพทย์จีน อรกช มหาดิลกรัตน์ (หมอจีน ไช่ เพ่ย หลิง)
蔡佩玲 中医师
TCM. Dr. Orakoch Mahadilokrat (Cai Pei Ling)
แผนกอายุรกรรมโรคมะเร็ง 肿瘤科
6 ธ.ค. 2567
9 ธ.ค. 2567
6 ธ.ค. 2567