แพทย์แผนจีนกับโรคมะเร็ง ในมุมมองของแพทย์ ?

 การแพทย์แผนจีนเน้นมองที่ตัวบุคคล รักษาที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญ ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มักจะมาด้วยอาการที่หนักแล้วซึ่งไม่ได้มีเพียงอาการทางร่างกาย แต่ยังมีอาการทางจิตใจอีกด้วย แพทย์จีนจึงเน้นรักษาที่เฉพาะบุคคลกับการให้กำลังใจเป็นสำคัญ

 การแพทย์แผนจีนเป็นการรักษาแบบองค์รวม แก้ไขบรรเทาอาการและความเจ็บปวดทรมานต่างๆ อีกทั้งช่วยในเรื่องของการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เช่น การรับประทานอาหาร การนอนหลับ การขับถ่าย ทำให้ผู้ป่วยมีแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีกำลังใจในการรักษาต่อ

  แนวทางการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน ?

 ผู้ป่วยส่วนมากจะผ่านการรักษาหรือกำลังรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันมาก่อนแล้ว แพทย์แผนจีนจะมุ่งเน้นในการลดผลข้างเคียงเป็นหลัก เช่น อาการข้างเคียงหลังคีโม เหนื่อยอ่อนเพลียซึ่งการใช้ยาจีนมาลดผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง ยังเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพในการรักษาอีกด้วย ในผู้ป่วยมะเร็งที่มีอายุมาก ร่างกายอ่อนแอ อ่อนเพลีย หรือทางแพทย์แผนปัจจุบันให้ความเห็นว่าหมดหนทางในการรักษา แพทย์จีนจะเน้นด้วยการประคับประคองบรรเทาอาการไม่สบายต่างๆ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิต ควบคุมมะเร็งและชะลอการแพร่กระจาย

 การยกระดับคุณภาพชีวิต การดูแลในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน ?

 ส่วนใหญ่การรักษามะเร็งแพทย์จะรักษาด้วยยาจีนเป็นหลัก แต่สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานยาได้ อาจเปลี่ยนมาใช้การรักษาภายนอกแทน เช่น บรรเทาอาการปวด เหนื่อยอ่อนเพลีย โดยใช้วิธีการฝังเข็ม รมยา ยาประคบภายนอกเพื่อบรรเทาอาการ  ในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายๆมักมาด้วยอาการปวดค่อนข้างมาก การแพทย์จีนจะเน้นบรรเทาอาการปวดและช่วยลดการใช้ยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน ช่วยควบคุมการแพร่กระจายของมะเร็ง ช่วยแก้ไข้ปัญหาเกี่ยวกับการกิน การนอน การขับถ่าย ให้เป็นปกติ เป็นการ “ยกระดับคุณภาพชีวิต” ที่สำคัญนั้นเอง

  ในฐานะที่คุณหมอเป็นแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง หากแพทย์จีนเป็นอีกหนึ่งความหวังคุณหมอมีอะไรอยากจะบอกผู้ป่วยที่กำลังต่อสู้กับโรค ?

 “หวังว่าการแพทย์แผนจีนจะเป็นทางเลือกทางหนึ่งของผู้ป่วย ถึงแม้ว่ามะเร็งจะยังอยู่กับเราแต่ว่าเราก็สามารถปรับตัวอยู่ด้วยกันได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีดั่งคำว่า 带癌生存 และหวังว่าการรักษาระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันกับการแพทย์แผนจีนร่วมกันทั้งสองสาขา จะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ดีให้กันและกัน แต่เราสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ ยังดำรงชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้”