10 ข้อควรทำเมื่อโดนฝน

ในฤดูฝนหรือฤดูมรสุมทุกคนต้องเผชิญอากาศที่เลวร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะคนทำงานที่ต้องเดินทางกลับบ้านต้องเดินลุยน้ำฝนท่ามกลางฝนตกหนัก หลายคนมองว่าการตากฝนไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ความจริงแล้วฝนอาจเป็นบ่อเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆได้มากมาย ดังนั้นหากเรารู้จักป้องกันดูแลตนเองได้ดีก็อาจทำให้รอดพ้นจากการเจ็บป่วยหรือลดความรุนแรงจากหนักกลายเป็นเบาได้ วันนี้เลยมี 10 ข้อควรปฏิบัติตัวมาฝากกันค่ะ

1.      เมื่อจำเป็นต้องโดนฝนควรใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดกันลมกันฝน ในการแพทย์แผนจีน จัดผิวหนังเป็นส่วนหนึ่งของระบบเส้นลมปราณ เมื่อผิวหนังสูญเสียการป้องกัน ปัจจัยก่อโรคก็คือลม ความชื้น และความเย็นสามารถรุกรานเข้าเส้นลมปราณย่อย เข้าสู่เส้นลมปราณหลัก และเข้าสู่อวัยวะภายในทำให้เกิดโรคได้

2.      ควรปกคลุมบริเวณข้อต่อต่างๆให้อบอุ่นแม้ต้องโดนฝน โดยเฉพาะบริเวณคอ หัวไหล่ หลัง และหัวเข่า ป้องกันอาการปวดข้อกระดูกจากความเย็นชื้น และควรระวังมากในผู้สูงอายุ

3.      เมื่อโดนฝนควรรีบเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าแห้งให้เร็วที่สุด

4.      อาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อนเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนเลือด เปิดรูขุมขนขับไล่ความชื้น ความเย็นออกจากร่างกาย

5.      เป่าผมให้แห้ง ลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากลมเย็น ความชื้นอุดกั้นการไหลเวียนเลือด

6.      รีบดื่มน้ำร้อน หรือน้ำขิงใส่น้ำตาลทรายแดง ขิงมีฤทธิ์อุ่น รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณช่วยขับกระจายความเย็น ขับเหงื่อ บรรเทาอาการปวดเพิ่มอุณหภูมิอบอุ่นร่างกาย ขับไล่ความชื้น ความเย็นที่อาจเกิดขึ้นในร่างกายป้องกันหวัด

7.      การแพทย์แผนจีนกล่าวว่า นอกจากการขับเหงื่อแล้วการทำตัวเองให้จาม เป็นการขับไล่ความเย็นได้อีกทางหนึ่ง

8.      หลายคนเมื่อโดนฝนจะไม่ได้เป็นหวัด แต่จะเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ส่งผลต่อม้ามและกระเพาะอาหาร เช่น มีอาการท้องเย็น ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลว ควรใช้ถุงน้ำร้อน หรือสามารถ DIY เอาขวดใส่น้ำร้อนห่อด้วยผ้าขนหนูมาประคบร้อนที่บริเวณท้องขับไล่ความเย็นชื้นบรรเทาอาการได้

9.      รีบพักผ่อนนอนหลับและเสริมสร้างโภชนาการอย่างเหมาะสมช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี

10.   สำคัญที่สุดคือควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอทำร่างกายให้แข็งแรงเพิ่มภูมิคุ้มกัน

แม้ว่า10 ข้อปฏิบัติที่ให้ไว้จะดี แต่ดีที่สุดคือไม่โดนฝน หลีกได้หลีกเลี่ยงได้เลี่ยงแต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็โดนได้ แต่ต้องตั้งรับด้วยนะคะ

------------------------

บทความโดย
แพทย์จีนชลิดา  สิทธิชัยวิจิตร (หมอจีนเฉิน เป่า เจิน)
陈宝真 中医师
TCM.Dr.Chalida Sittichaivijit (Chen Bao Zhen)
แผนกอายุรกรรม