ตัวอย่างกรณีการรักษาผู้ป่วยมีอาการคันประสาทหลังเป็นโรคงูสวัด

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  16239 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตัวอย่างกรณีการรักษาผู้ป่วยมีอาการคันประสาทหลังเป็นโรคงูสวัด

ตัวอย่างกรณีการรักษาผู้ป่วยมีอาการคันประสาทหลังเป็นโรคงูสวัด ที่แผนกอายุรกรรมภายนอก คลินิกหัวเฉียวแพทย์แผนจีน

 

  ข้อมูลทั่วไป

ผู้ป่วยหญิง     อายุ  71 ปี

เลขประจำตัวผู้ป่วย  335XXX

  วันที่รับการรักษาครั้งแรก  3 กันยายน 2564

  อาการสำคัญ

บริเวณศีรษะและใบหน้าซีกขวามีอาการคันมากมา 3 เดือน



  ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน

3 เดือนก่อน ผู้ป่วยมีกลุ่มของตุ่มน้ำขึ้นบริเวณศีรษะและใบหน้าซีกขวาพร้อมด้วยอาการปวดแสบปวดร้อนมาก

ได้รับการวินิจฉัย ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งว่าเป็นงูสวัด รักษาด้วยการทานยาและใช้ยาภายนอก ปัจจุบันบริเวณศีรษะและหน้าผากซีกขวามีอาการคันมาก ปวด ชาเป็นบางครั้ง มีอาการคันถี่มากบริเวณเปลือกตาขวา ต้องขยิบและขยี้ตาตลอดเวลา ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการนอนหลับ นอนแทบไม่ได้ ทานยาแก้แพ้และgabapentinมาตลอด แต่อาการไม่ดีขึ้น

  อาการและประวัติอื่นๆ :  มีอาการอ่อนเพลียมาก  เครียด เวียนหัวและแน่นหน้าอกบ่อยๆ มีอาการขมปาก

  ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต  

โรคหัวใจ

  การตรวจร่างกาย

ลิ้นมีสีชมพูคล้ำ ฝ้าขาว ตัวลิ้นใหญ่ มีรอยฟัน ชีพจรเล็ก ชีพจรบางจุดมีลักษณะจมลึกร่วมด้วย

  การวินิจฉัย

จากการซักประวัติ เริ่มแรกมีอาการปวดแสบปวดร้อน และมีกลุ่มของตุ่มน้ำขึ้นบริเวณซีกเดียวของร่างกาย วินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคงูสวัด  วันแรกที่มารักษา ตุ่มน้ำจากงูสวัดหายสนิท ไม่มีสะเก็ดแผลแล้ว ผู้ป่วยมีอาการคันมากบริเวณศีรษะและหน้าผากซีกขวาวินิจฉัยได้ว่าเป็นอาการคันหลังเป็นโรคงูสวัด อยู่ในกลุ่มอาการเลือดและลมปราณพร่องก่อให้เกิดลม(血虚生风兼气虚证)

  วิเคราะห์กลุ่มอาการของผู้ป่วย

ผู้ป่วยมีเป็นงูสวัดเมื่อ 3 เดือนก่อน และหลังจากนั้นก็มีอาการคันมากอย่างต่อเนื่อง ในทฤษฎีแพทย์แผนจีน อาการคันนั้นเกิดจากลม ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ เป็นๆหายๆ ไม่อยู่กับที่ เปลี่ยนแปลงเร็ว มักเกิดตำแหน่งอวัยวะบนๆ หรือทางผิวหนัง  ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เกิดได้จากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ในผู้ป่วยเคสนี้มีอาการคันมาแล้ว 3 เดือน ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง จึงมักเกิดอาการพร่องและคั่งของเลือดลม ทำให้ผิวแห้ง ปวดและคันได้ง่าย ซึ่งตรงกับลักษณะลิ้นและชีพจรของผู้ป่วย ที่ลิ้นมีสีชมพูคล้ำ ฝ้าขาว ตัวลิ้นใหญ่ มีรอยฟัน ชีพจรเล็ก ชีพจรบางจุดมีลักษณะจมลึกร่วมด้วย รวมถึงอาการที่แสดงออกมาเช่น อ่อนเพลียมาก เวียนหัว ปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ เมื่อเกิดอาการคันทำให้นอนหลับไม่ดีเป็นระยะเวลานาน สารอินหรือสารน้ำในร่างกายไม่ได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่อง จึงยิ่งเป็นตัวเสริมให้อาการแย่ลง

  หลักการรักษา

บำรุงและกระตุ้นเลือดลม ขับลมออก เมื่อเลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาการปวดและคันจะหายไป โดยตัวยาที่ใช้จะเน้นให้ออกฤทธิ์ไปที่ศีรษะและดวงตา

  การรักษา

1. จ่ายยาจีน 5 วัน  ใช้บริการต้มที่คลินิก ทานยา เช้า 1ถุง เย็น 1 ถุง หลังอาหาร30นาที

2. ฝังเข็ม (โดยแพทย์จีนปี้หยาหม่า)

  คำแนะนำแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยส่งเสริมการรักษา

1. พักผ่อนให้เพียงพอ

2. ผ่อนคลายจิตใจ

3. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล

  การติดตามอาการครั้งที่ 1 (8 กันยายน 2564)

ระดับความคันลดลง 50% รวมถึงความถี่ลดลง แต่การนอนหลับยังไม่ดี ผู้ป่วยแจ้งเพิ่มเติมว่าในช่วงกลางคืนจะปัสสาวะ 5-6ครั้ง เป็นมานานแล้ว ยังมีอาการอ่อนเพลียมากเท่าเดิม แน่นหน้าอกความถี่น้อยลง ไม่มีอาการเวียนหัว ปากขมแล้ว

  การตรวจร่างกาย

ลิ้นมีสีชมพูคล้ำ ฝ้าขาว ตัวลิ้นใหญ่ มีรอยฟัน ชีพจรเล็ก ชีพจรบางจุดมีลักษณะจมลึกร่วมด้วย

  การรักษา

ปรับยาให้เข้ากับอาการปัจจุบัน จ่ายยาจีน  3 วัน ใช้บริการต้มที่คลินิก ทานยา เช้า 1ถุง เย็น 1 ถุง หลังอาหาร30นาที

  การติดตามอาการครั้งที่ 2 (12 กันยายน 2564)

อาการคันและปวดบริเวณศีรษะและใบหน้าซีกขวาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการกำเริบไม่บ่อย อาการชาเมื่อลูบหน้าผากลดลง ปัสสาวะตอนกลางคืน 2 ครั้ง นอนหลับได้ปกติแล้ว อาการอ่อนเพลียลดลง

  การตรวจร่างกาย

ลิ้นมีสีชมพูคล้ำ ฝ้าขาว ตัวลิ้นใหญ่ มีรอยฟัน ชีพจรเล็ก ชีพจรบางจุดมีลักษณะจมลึกร่วมด้วย

  การรักษา

1. ปรับยาให้เข้ากับอาการปัจจุบัน จ่ายยาจีน  3 วัน ใช้บริการต้มที่คลินิก ทานยา เช้า 1ถุง เย็น 1 ถุง หลังอาหาร30นาที

2. ฝังเข็ม (โดยแพทย์จีนปี้หยาหม่า)

  การติดตามอาการครั้งที่ 3 (16 กันยายน 2564 สิ้นสุดการรักษา)

อาการคงที่

  การตรวจร่างกาย

ลิ้นมีสีแดงคล้ำ ฝ้าขาวบาง ชีพจรตึง

  การรักษา

ปรับยาให้เข้ากับอาการปัจจุบัน จ่ายยาจีน  3 วัน ใช้บริการต้มที่คลินิก ทานยา เช้า 1ถุง เย็น 1 ถุง หลังอาหาร30นาที

  สรุปผลการรักษา

ผู้ป่วยท่านนี้ 3 เดือนก่อนเป็นงูสวัด รักษาโดยการทานยาแผนปัจจุบันมาก่อน ตุ่มน้ำและสะเก็ดหายหมดแล้ว แต่ยังมีอาการปวดแสบปวดร้อน และมีอาการคันที่เด่นชัด ต้องขยิบและขยี้ตาตลอดเวลา ทำให้นอนไม่ได้ เมื่อรักษาด้วยยาจีนและฝังเข็ม อาการปวดดีขึ้นตามลำดับและอาการคันลดลงอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายเหลืออาการเพียงเล็กน้อย และกลับมานอนได้ หลังจากนั้นจ่ายยาเพื่อลดอาการครั้งสุดท้าย รวมเวลารักษาทั้งสิ้น 9 วัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้