ดูแลรักษาดวงตาตามสไตล์แพทย์จีน

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  12736 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดูแลรักษาดวงตาตามสไตล์แพทย์จีน

อวัยวะที่สำคัญในการดำรงชีวิตของเรานั่นคือ ดวงตา หากไม่ดูแลดวงตาให้ดี สายตาเรานั้นจะค่อยๆถดถอยเสื่อมลงตามอายุ โดยเฉลี่ยอายุ 40-45 ปี สายตาจะค่อยๆเสื่อมลง ดูได้จากเวลาอ่านหนังสือนานๆจะรู้สึกตัวหนังสือเริ่มเลือนลาง ตาพร่ามัว มองไม่ชัดเจน เมื่อเห็นแสงจ้าๆจะรู้สึกแสบตา แสดงให้เห็นว่าดวงตาเรานั้นกำลังเสื่องลง แต่ในปัจจุบันนี้ค่าเฉลี่ยการใช้งานของอายุตานับวันยิ่งลดลง เนื่องจากการใช้งานดวงตามากเกินไป เช่น การจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆทำให้ดวงตาเสื่อมลงได้ง่ายกว่าแต่ก่อน หากไม่ดูแลรักษาสามารถกลายเป็นโรคตาในผู้สูงอายุได้ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก หรือ จอประสาทตาเสื่อมได้ในเวลาต่อมา

วิธีการดูแลดวงตาแบบแพทย์จีน
ดูแลเรื่องอารมณ์  
ชีวิตคนเรานั้นถูกขับเคลื่อนโดยอารมณ์ทั้งสิ้น ในทางแพทย์จีนได้มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะกับอารมณ์ไว้ คัมภีร์เน่ยจิง ได้กล่าวว่า หัวใจควบคุมอารมณ์รักชอบ  ตับควบคุมอารมณ์โกรธ  ม้ามควบคุมอารมณ์ครุ่นคิด ปอดควบคุมอารมณ์โศกเศร้า ไตควบคุมอารมณ์ตกใจหรือกลัว

นอกจากอวัยวะหัวใจเป็นส่วนหลักในการควบคุมอารมณ์แล้ว อวัยวะตับมีความสำคัญในการควบคุมการกระจายและระบายของชี่ด้วยเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วชี่กับเลือดจะไหลเวียนควบคู่กันไป คือ ชี่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเลือดในขณะเดียวกันเลือดก็จะผลักดันชี่ด้วย ดังนั้นควรควบคุมอารมณ์โมโหไว้ให้ดี เพราะถ้าเวลาโมโหจะทำให้ชี่วิ่งพุ่งขึ้นด้านบนทำให้มีอาการหน้าแดง ตาพร่ามัว ตาแดงเนื่องจากตับเปิดทวารที่ดวงตา


อาหารบำรุงสายตา 
กลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผักใบขียว กลุ่มอาหารที่มีสีเหลือง แดง และดำ เช่น แครอท ข้าวโพด เก๊กฮวย มะเขือเทศ โกจิเบอร์รี่  บร็อคโคลี  กีวี่ พุทราจีน งาดำ วอลนัท มัลเบอร์รี่ 

เนื่องจากในทางแพทย์จีนนั้นสีของอาหารมีความสัมพันธ์กับแต่ละอวัยวะด้วย เช่น สีเหลืองสัมพันธ์กับม้าม สีเขียวสัมพันธ์กับตับ สีแดงสัมพันธ์กับหัวใจ  สีดำสัมพันธ์กับไต 

ในทางแพทย์จีนนั้นแต่ละอวัยวะที่กล่าวมามีหน้าที่แตกต่างกัน เช่น ม้ามควบคุมลำเลียงเลือดในร่างกาย ตับมีหน้าที่กักเก็บเลือดและเปิดทวารที่ดวงตา  หัวใจควบคุมเลือด  ไตนั้นลำเลียงสารน้ำในร่างกายและในทางแพทย์จีนเชื่อว่าตับและไตมีแหล่งกำเนิดจากที่เดียวกัน อวัยวะที่กล่าวข้างต้นนั้นมีส่วนช่วยให้เลือดและชี่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงดวงตาได้ดีขึ้น


ชาบำรุงสายตา
ชาชุมเห็ดไทย
- นำ เมล็ดชุมเห็ดไทย 15 กรัม  ดอกเก๊กฮวย 5 ดอก ล้างให้สะอาด แช่น้ำร้อน 5-10 นาที ค่อยๆจิบแทนน้ำเปล่า ทานได้ตลอดทั้งวัน  มีสรรพคุณ ระบายชี่ตับทำให้ดวงตาสดใส ขับปัสสาวะ ลดความดัน หล่อลื่นลำไส้ช่วยการขับถ่าย

ชาเก๊กฮวยโกจิเบอร์รี่
- นำดอกเก๊กฮวย 10 กรัม  เก๋ากี๊ 10 เม็ด มาล้างน้ำสะอาด แช่น้ำร้อน5-10นาที ค่อยๆจิบแทนน้ำเปล่า ทานได้ตลอดทั้งวัน   เก๊กฮวยนั้นถือเป็นยาจีน มีสรรพคุณ ให้ดวงตาเปล่งประกาย ลดไฟตับ ช่วยลดอาการตาแห้ง อีกทั้งยังมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา   ส่วนเก๋ากี๊หรือโกจิเบอร์รี่มีสรรพคุณในการบำรุงหล่อเลี้ยงดวงตา  เป็นแหล่งของวิตามินเอ บี1 , บี2 ,  ซี รวมถึงแคลเซียมและธาตุเหล็ก

กระพริบตาบริหารดวงตา 
เพื่อให้ต่อมน้ำตาทำงานได้ดีขึ้น  ป้องกันอาการตาแห้ง บริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตา ช่วยให้การหมุนเวียนเลือดรอบดวงตาดีขึ้น นอกจากการกระพริบตาบ่อยๆแล้วยังสามารถบริหารลูกตาดำได้ด้วยการกรอกตาไปมาซ้าย-ขวา เพื่อให้ดวงตาปรับโฟกัสได้ดีขึ้น

ประคบร้อน-เย็นบริเวณดวงตา 
ก่อนนอนใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประมาณ40องศาบิดหมาดๆ  วางบริเวณดวงตา  เพื่อให้ดวงตาผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบดวงตา  จากนั้นน้ำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นบิดหมาดๆวางบริเวณดวงตา เพื่อให้ดวงตาสดใส ยกกระชับป้องกันริ้วรอย ทำสลับไป-มา 3 ครั้ง

กดจุดบำรุงสายตา
บริเวณรอบดวงตามีจุดฝังเข็ม ในการคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาด้วยการประคบแล้ว สามารถนวดกดจุดตามเส้นลมปราณบริเวณรอบดวงตาได้ด้วยการกดจุด



1. จุดฉ้วนจู๋ (攒竹 CuanZhu)                   
อยู่บริเวณรอบบุ๋มของหัวคิ้ว

2. อวี๋เยา (鱼腰 YuYao)                            
อยู่กลางคิ้ว แนวเดียวกับรูม่านตา

3. ซือจู๋คง (丝竹空 SiZhuKong)            
อยู่ตรงรอยบุ๋มบริเวณหางคิ้ว

4. ไท่หยาง(太阳TaiYang)                      
อยู่ตรงรอยบุ๋มบริเวณขมับ

5. ถงจื่อเหลียว (瞳子髎 TongZiLiao)   
อยู่ตรงรอยบุ๋มบริเวณหางตา

6. เฉิงชี่ (承泣 ChengQi)                           
อยู่ใต้ตาตรงกับรูม่านตา ตรงกลางระหว่างลูกตากับ
ขอบกระดูกเบ้าตาด้านล่าง

7. ซื่อไป๋ (四白SiBai)                              
อยู่ใต้จุดเฉิงชี่

8. จุดจิงหมิง (睛明 JingMing)                 
อยู่ที่รอยบุ๋มเหนือมุมหัวตา

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิต 
ในปัจจุบันนั้นเรานั้นใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บแลตต่างๆทุกวัน แสงจากจอนั้น หากจ้องนานทำให้ตาเกิดการพร่ามัวได้ ดังนั้นไม่ควรนั่งจ้องคอมเป็นเวลานานเกิน 30 นาที ควรพักสายตาโดยการจ้องไปที่ท้องฟ้า ต้นไม้สีเขียว เพื่อให้ผ่อนคลาย หรือการบริหารดวงตา หรือเมื่อเจอแสงแดดจ้าๆ จากดวงอาทิตย์ควรพกแว่นกันแดด หลีกเลี่ยงการมองแสงจ้าเป็นเวลานาน และการพักผ่อนนอนหลับที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ เข้านอนเวลา 22.00 น. ตื่น 5.00 น. จะทำให้ตับซึ่งกับเก็บเลือดและเปิดทวารที่ดวงตา ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสายตาดีตามไปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้