Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 29337 จำนวนผู้เข้าชม |
งูสวัดเป็นโรคผิวหนังที่ติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า varicella zoster virus เมื่อเข้าสู่ร่างกายผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนก็จะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส และเชื้อจะหลบอยู่บริเวณปมประสาทของร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน อายุที่มากขึ้น เป็นต้น เชื้อก็จะจู่โจมกระจายไปตามเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทอักเสบ และแสดงออกที่ผิวหนัง เรียกว่า “งูสวัด”
งูสวัดมีอาการที่สำคัญคือ มีกลุ่มตุ่มน้ำร่วมกับอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงซีกเดียวจากแนวแกนกลางลำตัว และยังสามารถติดเชื้อไวรัสจากการสัมผัสโดยตรงได้อีกด้วย ในผู้สูงอายุจะมีอาการรุนแรงและนานกว่า งูสวัดนั้นปกติแล้วจะเป็นแค่ครั้งเดียวเช่นเดียวกับอีสุกอีใส
โดยส่วนใหญ่ตุ่มน้ำจะแห้งไปภายใน 2-3 สัปดาห์แต่สามารถทิ้งอาการปวดต่อเนื่องได้อีก ซึ่งอาการปวดที่เกิดจากงูสวัดนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยกังวลใจ เพราะในระยะแรกระดับความปวดค่อนข้างมาก ผู้ป่วยบางรายอาจปวดจนนอนไม่หลับ ทนไม่ได้ โรคงูสวัดถ้าไม่รีบรักษาอย่างทันท่วงที อาการก็จะรุนแรงและอาจนานเป็นสัปดาห์ เดือน ปี หรือนานกว่านั้น
งูสวัดในมุมมองแพทย์แผนจีน
แพทย์แผนจีนมองว่างูสวัดนั้นเกิดจากสภาวะที่ไม่ปกติ เช่น อารมณ์ขุ่นมัว ภาวะเครียดสะสมนานๆ อารมณ์โมโหโกรธที่เป็นบ่อยและมากเกินไป ส่งผลให้ชี่ตับอุดกั้น เมื่อนานวันเข้าจากชี่ที่อุดกั้นอยู่จะค่อยๆเกิดความร้อนสะสมเป็นพิษร้อนขึ้น ถ้าประกอบกับมีลมภายนอก (风邪เฟิงเสีย)มากระทบ ซึ่งคุณสมบัติของลมคือมักจะกระทบช่วงบน จึงทำให้เกิดอาการที่ใบหน้า หรือถ้าความชื้นมากระทบ ความชื้น (湿邪 ซือเสีย) มีคุณสมบัติไหลลงล่าง จึงจะทำให้เกิดอาการที่ขา หากความร้อนอุดกั้นมากจะเกิดอาการที่ลำตัว ผู้สูงอายุมักเกิดจากเลือดน้อยมีไฟตับกำเริบ(ตับเก็บกักเลือด เลือดเป็นอิน เมื่ออินน้อยหยางจึงมากเกิดเป็นความร้อน) ความร้อนชื้นเป็นพิษทำให้เกิดอาการปวดมาก เนื่องจากเลือดลมเดินติดขัด เมื่อทางเดินของเส้นลมปราณยังไม่สะดวกจึงมีอาการปวดแบบเรื้อรัง
วิธีการรักษางูสวัดโดยวิธีแพทย์แผนจีน
การรักษาแบบการแพทย์แผนจีนจะคำนึงถึงการวินิจฉัยตามกลุ่มอาการของการเกิดโรคเป็นหลัก ซึ่งวิธีการรักษาตามกลุ่มอาการนั้น มีได้หลายวิธี ทั้งการกินยาจีน การฝังเข็ม การรมยา การปล่อยเลือด ยาใช้ภายนอก ฉายโคมแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งการรักษาแบบการแพทย์แผนจีน สามารถย่นระยะเวลาการดำเนินของโรคให้สั้นลง บรรเทาอาการปวดได้ทุกระยะโดยไม่มีผลข้างเคียง ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ยิ่งรักษาเร็วยิ่งได้ผลดี และสามารถรักษาควบคู่กับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อผลที่ดียิ่งขึ้นได้ การรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนไม่เพียงแต่รักษาโรคงูสวัดเท่านั้น แต่เป็นการปรับสมดุลร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
การดูแลตนเองในขณะที่เป็นงูสวัด
1.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือทานยากดภูมิ
2.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง เน้นทานผัก ผลไม้
3.หลีกเลี่ยงการใช้ประคบร้อน หรืออาบน้ำร้อนจัด
4.สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดจนเกินไป
5.พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย
6.รักษาความสะอาดบริเวณที่มีตุ่มน้ำหรือที่ผื่นขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาที่มีความรุนแรงหรือไม่เหมาะสมอาจทำให้อาการหนักขึ้นได้
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติม -
การรักษาโรคผิวหนังด้วยวิธีแพทย์แผนจีน
การรักษาด้วยยาจีน