ตำแหน่ง สิวบอกโรค

Last updated: 24 ม.ค. 2568  |  188 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตำแหน่ง สิวบอกโรค



สิว จัดเป็นปัญหากวนใจบนผิวหน้าที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งพบได้มากในช่วงวัยรุ่น หลายคนอาจจะมองเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นแล้วหายเองได้ แต่ในบางคนอาจเป็นสิวเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด ทำให้เกิดความไม่มั่นใจและสร้างความกังวลใจให้ได้

 ซึ่งตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้น “สิว” ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงการทำงานของอวัยวะภายในบางอย่างว่ามีความผิดปกติไปจากเดิม หรือร่างกายเสียสมดุลไป  ในทางการแพทย์แผนจีนนั้นมองว่า สิว สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดจากการทำงานของระบบอวัยวะภายในไม่สมดุล เช่น ร่างกายที่ร้อนในง่ายเมื่อถูกกระทบจากความร้อนหรือลมร้อน ก็สามารถทำให้มีโอกาสการเกิดสิว นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะกับสภาวะร่างกายซ้ำๆหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดสิวเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด บางรายพบปัญหามักเป็นสิวตำแหน่งเดิมและเกิดรอยดำ รอยแดงเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นหากเรารู้ว่าตำแหน่งของสิว บ่งบอกถึงอวัยวะใดที่เสียสมดุลไป เราจะได้นำไปปรับแก้การดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง

 


1.บริเวณหน้าผาก

บริเวณหน้าผาก เป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ  “ลำไส้ และกระเพาะอาหาร”

หากตำแหน่งนี้เกิดสิวอักเสบ ผดผื่น ขึ้นซ้ำๆ ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากระบบย่อยอาหารทำงานเสียสมดุลไป มีความร้อนหรือความชื้นรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร อาจพบอาการท้องผูกเรื้อรัง ท้องอืดง่าย อาหารย่อยยาก หรือมักจะพบมากในคนผิวมันง่ายด้วย

  ข้อควรปฏิบัติ : ควรงดอาหารรสจัด อาหารมัน ของทอด ขนมหวาน อาหารย่อยยาก

2.บริเวณหว่างคิ้ว

บริเวณระหว่างคิ้ว เป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ  “หัวใจและตับ”

หากตำแหน่งนี้เกิดสิวอักเสบ ผดผื่น ขึ้นซ้ำๆ มักมีสาเหตุมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึกติดกันเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีความเครียดสูง

  ข้อควรปฏิบัติ: พักผ่อนให้เพียงพอ หาวิธีจัดการกับอารมณ์และความเครียด ปล่อยวาง เข้านอนเร็วขึ้น และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  อาหารรสจัด ของทอด ของมัน



3.บริเวณรอบดวงตา
บริเวณรอบดวงตา เป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ  “ไต” และ “ตับ”

หากตำแหน่งนี้เกิดสิวอักเสบ ขอบตาคล้ำ ถุงใต้ตาบวม มีตีนกา หรือ มีผดผื่น ขึ้นซ้ำๆบริเวณนี้ มักมีสาเหตุมาจากความเครียดมากๆสะสมจนเกิดเป็นความร้อนในร่างกายสูง จึงก่อให้เกิดสิวบริเวณใกล้ดวงตา

  ข้อควรปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด รู้จักวิธีจัดการกับอารมณ์และความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่หักโหมจนเหนื่อยเกินไป หรือทานธัญพืช เช่น ถั่วเขียว

4.บริเวณโหนกแก้มและจมูก

บริเวณโหนกแก้มและจมูก เป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ  “ปอด”

หากตำแหน่งนี้เกิดสิวอักเสบ สิวเสี้ยน สิวอุดตัน เรื้อรังขึ้นซ้ำๆ มักมีสาเหตุมาจากระบบการทำงานของปอด เช่น ปอดมีความร้อนสูง สะท้อนออกทางผิวหนังทำให้เกิดสิวขึ้นบริเวณโหนกแก้มและจมูก จมูกแดงอักเสบบ่อยๆ

  ข้อควรปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด อาหารทอดมันและอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ดื่มน้ำเปล่ามากๆ



 

5.บริเวณแก้ม

บริเวณโหนกแก้ม เป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ “กระเพาะอาหาร” และ ”ม้าม”

หากตำแหน่งนี้เกิดรอยแดง บวม มีสิวอักเสบ ผดผื่นคัน ขึ้นซ้ำๆ มักมีสาเหตุมาจากการชอบรับประทานอาหารรสจัด ของหวาน ทอดหรือมันมากเกินไป ทำให้ระบบการย่อยอาหารผิดปกติไป และมีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ร่างกายภายในมีความร้อนสะสม และก่อให้เกิดสิวตามมา สิวบริเวณนี้มักบวม แดง เจ็บ

ü  ข้อควรปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหวาน ของทอด ของมัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น หรือดื่มน้ำเก็กฮวย

6.บริเวณคาง

บริเวณคางจะเป็นจุดสะท้อนของอวัยวะ “มดลูก”และ”รังไข่”

หากผิวบริเวณตำแหน่งนี้มัน เกิดสิวอักเสบ ผดผื่น ขึ้นเรื้อรังซ้ำๆ มักมีสาเหตุมาจากระบบระบบสืบพันธุ์มีปัญหา เช่น ฮอร์โมนเพศแปรปรวน ประจำเดือนผิดปกติ หรือถ้าในเพศชายอาจมีสาเหตุจากต่อมลูกหมาก

ü  ข้อควรปฏิบัติ: พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป ดื่มน้ำมากๆระหว่างวัน หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น และอาหารฤทธิ์เย็นต่างๆ เช่น ผักผลไม้สด อาหารปรุงไม่สุก ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

 

7.บริเวณใบหู

ปัญหาที่เกิดบริเวณตำแหน่งนี้ จะเกี่ยวข้องกับ อวัยวะ “ ไต”

หากบริเวณหูมักเกิดสิวอักเสบ สิวไม่มีหัว ผดผื่น หูสีม่วงแดง ซ้ำๆบ่อยๆมักมีสาเหตุมาจากระบบการทำงานของไตที่ผิดปกติไป

ü  ข้อควรปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่หักโหมจนเหนื่อยเกินไป ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายและระบบการไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดีขึ้น

8.บริเวณคอ

ปัญหาที่เกิดบริเวณตำแหน่งนี้ จะเกี่ยวข้องกับ อวัยวะ “กระเพาะอาหาร”และ”ลำไส้”

 หากตำแหน่งนี้เกิดสิวอักเสบ ผดผื่น ขึ้นบ่อยๆ มักมีสาเหตุมาจากระบบกระเพาะอาหารย่อยและดูดซึมได้ไม่ดี ความร้อนในร่างกายสะสมนานๆ ก่อให้เกิดสิว

ü  ข้อควรปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด อาหารทอดมัน อาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ปรับพฤติกรรมและความเคยชินในการรับประทานอาหาร เช่น ทานอาหารให้ตรงเวลา เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอิ่มจนเกินไปหรือน้อยจนเกินไป



วิธีการรักษาสิวด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้น โดยทั่วไปมักใช้การฝังเข็ม การรับประทานยาจีน การครอบแก้วหรือกวาซาระบายความร้อนที่อุดกั้นสะสมอยู่ในร่างกาย ควบคู่กับการขับเสมหะ และกระตุ้นระบบย่อยอาหาร(ม้าม) ซึ่งแพทย์แผนจีนเชื่อว่าเป็นระบบการทำงานของร่างกายที่สำคัญที่จะช่วยลดการเกิดเสมหะและความร้อนสะสมเหล่านี้ได้



 

        นอกจากนี้ผู้ที่เป็นสิวควรหมั่นดูแลเอาใจใส่สุขภาพและความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เข้านอนเร็ว พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ ใส่ใจเรื่องสุขลักษณะอนามัย และนอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและเหมาะสมก็ยังช่วยลดการสะสมของเสมหะและความร้อน อาหารที่แนะนำให้ผู้ที่มีสิวรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสจืด ฤทธิ์เย็นหรือฤทธิ์กลาง ขับเสมหะ ได้แก่ ถั่วเขียว ผักบุ้ง ผักคื่นไช่ ฟัก ฟักทอง แตงโม ลูกเดือย เม็ดบัว รากบัว ดอกเก๊กฮวย เป็นต้น งดรับประทานอาหารหรือผลไม้รสหวาน ดื่มน้ำสะอาดมากๆ

 
---------------------------------------
บทความโดย
แพทย์จีน รัญชนา ตั้งมั่นเจริญสุข (ซุน หลี)
孙梨 中医师
TCM. Dr. Runchana Tangmancharoensuk (Sun Li)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้