Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 1463 จำนวนผู้เข้าชม |
มนุษย์เราทุกคนเมื่อกาลเวลาผ่านไป ร่างกายย่อมเสื่อมโทรมลง ภาวะโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็จะเริ่มเกิดขึ้นกับร่างกายเราเป็นสัจธรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้รวมถึงโรคมะเร็งก็อาจเกิดขึ้นได้ โรคมะเร็งจัดเป็นหนึ่งในโรคที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับร่างกายเรามากที่สุด ด้วยกระบวนการดำเนินของโรคและการรักษานั้นหลายครั้งทำให้ผู้ป่วยเกิดความทุกข์ทรมานและคุณภาพชีวิตที่ยํ่าแย่ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด เคมีบำบัดหรือฉายแสง วิธีการเหล่านี้ถึงแม้จะส่งผลเสียต่อร่างกายมาก แต่ก็มีผลดีในการควบคุมโรคหรืออาจทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ จึงเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์แผนตะวันตกมาหลายทศวรรษ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีวิธีอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา เช่น ยามุ่งเป้า ภูมิคุ้มกันบำบัด แต่ด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงทำให้ยังยากต่อการเข้าถึงในผู้ป่วยทุกราย การผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายแสงจึงยังคงได้รับความนิยมและใช้อย่างแพร่หลายถึงปัจจุบัน ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าและประสิทธิภาพการรักษาที่ดี
การลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เคมีบำบัดและฉายแสงนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วย ทั้งในแง่การเพิ่มโอกาสในการรับการรักษาได้ครบตามแผนการรักษาที่วางไว้ การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหลังการรักษา และการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ป่วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การรักษาโรคมะเร็งประสบความสำเร็จได้
จุดเด่นที่ชัดเจนของแพทย์แผนจีนอย่างหนึ่งคือการปรับสมดุลที่เสียไปของร่างกายผู้ป่วยและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว ดังที่เรามักพบยาบำรุงร่างกายสูตรต่าง ๆ วางขายตามท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นยาสมุนไพรจีนหรือมียาสมุนไพรจีนเป็นองค์ประกอบเป็นส่วนใหญ่ ในการรักษาโรคมะเร็งก็เช่นเดียวกัน เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด เคมีบำบัดหรือฉายแสง สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายผู้ป่วยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ “ผลข้างเคียง” ซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยแย่ลง ถึงแม้ว่าเราจะรักษาทางแผนปัจจุบันจนครบถ้วนทุกกระบวนการแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถการันตีได้เลยว่าเซลล์มะเร็งจะหมดไปจากร่างกายผู้ป่วยได้อย่าง 100% และระบบที่จะมาจัดการเซลล์มะเร็งที่ยังมีหลงเหลือบ้างในร่างกายเราไม่ให้กลับมาเป็นซํ้าหรือลุกลามได้ง่าย ๆ ก็คือ “ระบบภูมิคุ้มกัน” ของเราเองนั่นเอง โดยหลังการรักษาหากผู้ป่วยยังคงฟื้นตัวจากผลข้างเคียงได้ช้า ทานอาหารได้น้อย ระบบย่อยอาหารไม่แข็งแรง อ่อนเพลีย มีความเครียดสูง ค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดตํ่ากว่าเกณฑ์ไปมาก ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยก็จะทำงานได้แย่ลงตามไปด้วย หากในระหว่างนั้นร่างกายผู้ป่วยยังคงมีเซลล์มะเร็งเหลือรอดอยู่ ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นซํ้าหรือพัฒนาลุกลามต่อไปได้ ในอีกด้านหนึ่งหากระหว่างหรือหลังการรักษาผู้ป่วยใช้แพทย์แผนจีนมาช่วยฟื้นฟูร่างกายและลดผลข้างเคียงจากการรักษาของแผนปัจจุบันควบคู่ไปด้วยกัน (ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน) ผู้ป่วยก็จะได้รับผลข้างเคียงจากการรักษาที่น้อยลง ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็วขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นเดียวกัน เซลล์มะเร็งที่อาจเหลือรอดอยู่ก็จะกลับมาเป็นซํ้าหรือลุกลามได้ยากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
หากแยกเป็นแต่ละรูปแบบการรักษาของแผนปัจจุบัน โดยแบ่งข้อดีข้อเสียและการแก้ไขในมุมมองของแพทย์แผนจีนแล้วจะสามารถแบ่งได้ดังนี้
เหล่านี้คือแนวทางในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเมื่อต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด คีโมและฉายแสงในแบบแพทย์แผนจีน โดยในตอนหน้าจะเป็นการดูแลในเรื่องโภชนาการในผู้ป่วยมะเร็งว่าแพทย์แผนจีนมีวิธีการอย่างไรนะครับ
------------------------
บทความโดย
แพทย์จีนวรพงศ์ ชัยสิงหาญ (หมอจีน เฉิน จู เซิง)
陈株生 中医师
TCM. Dr. Worapong Chaisingharn (Chen Zhu Sheng)
แผนกอายุรกรรมมะเร็ง
6 ธ.ค. 2567
9 ธ.ค. 2567
6 ธ.ค. 2567