“เซ็บเดิร์ม” กับการรักษาในมุมมองแพทย์แผนจีน

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  9772 จำนวนผู้เข้าชม  | 

“เซ็บเดิร์ม” กับการรักษาในมุมมองแพทย์แผนจีน

          โรคต่อมไขมันอักเสบ(Seborrheic dermatitis) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เซ็บเดิร์ม”  เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีการอักเสบเรื้อรังบริเวณต่อมไขมัน ในทางแพทย์แผนจีนเรียกว่า“เมี่ยนโหยวเฟิง(面游风)” มักพบได้ตำแหน่งบริเวณที่มีการขับของต่อมไขมัน เช่น ใบหน้า ศีรษะ อก หลัง เป็นต้น พบผื่นสีแดงเหลืองขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน มีสะเก็ดสีเหลืองลักษณะมันเหนียวคลุมอยู่ด้านบนซึ่งเป็นลักษณะสำคัญ

          ต่อมไขมันอักเสบมักพบในเด็กแรกเกิดและผู้ใหญ่วัยกลางคนบริเวณหนังศีรษะ ขมับ ตา คิ้ว ระหว่างคิ้ว ร่องจมูกกับปาก และหลังหู ใบหู และอาจเกิดขึ้นได้บริเวณหน้าอก แผ่นหลัง รักแร้ ขาหนีบ หรือกล่าวได้ว่ามักขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่มาก พบได้ในเพศชายมากกว่า

          ลักษณะของผื่นมีได้ทั้งรอยแดงเล็กน้อยถึงมาก บริเวณด้านบนมีขุยหรือมีสะเก็ดสีเหลืองมัน มักเริ่มเป็นจากบริเวณศีรษะก่อน การดำเนินโรคยาวนาน เป็นๆหายๆ รอยโรคบริเวณหนังศีรษะหากอาการไม่หนักมากอาจมีลักษณะสะเก็ดขุยสีขาวละเอียด มักมีผมร่วงร่วมด้วย ในผู้ที่เป็นหนักอาจพบสะเก็ดหนาสีเหลืองมันอาจมีกลิ่นร่วมด้วย โดยในแต่ละบุคคลมีอาการคันที่แตกต่างกัน

สาเหตุการเกิดโรค

          สาเหตุการเกิดโรคยังไม่เป็นที่แน่ชัดแต่พบว่ามักมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการได้แก่ ภูมิคุ้มกัน พันธุกรรม ฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อม หรืออาจเกี่ยวกับแบคทีเรียหรือเชื้อราบางชนิด

          ในทางการแพทย์แผนจีนมองว่า สาเหตุของการเกิดโรคมักมีสาเหตุมาจากปอดและกระเพาะมีความร้อนชื้น ลมร้อนเลือดแห้ง หรือม้ามพร่องความชื้นสะสม กระเพาะลำไส้มความร้อนสะสมจนก่อให้เกิดอาการ

การวินิจฉัยโรคและการแยกโรค

          โรคสะเก็ดเงินบริเวณศีรษะ : รอยโรคมีลักษณะเป็นผื่นสีแดง บนรอยโรคมีสะเก็ดสีขาวเงินปกคลุม ขอบเขตชัดเจน เส้นผมบริเวณรอยโรคจะมีลักษณะรวมเป็นกระจุก บริเวณอื่นๆตามร่างกายมักมีรอยโรคลักษณะเดียวกัน ไม่พบอาการผมร่วง

          ผื่นผิวหนังอักเสบ(eczema) : ผื่นผิวหนังอักเสบมักมีลักษณะหลากหลายรูปแบบ เช่น เป็นตุ่ม ตุ่มน้ำ รอยแดง ผื่นมีน้ำซึม ไม่มีความมันเหนียวและขุย อาการคันรุนแรง มักกลับเป็นซ้ำ

          กลาก : รอยโรคไม่สมมาตร เมื่อบริเวณกึ่งกลางรอยโรคหาย รอยโรคจะมีลักษณะแผ่ออกไปรอบข้าง ขอบนูน มีอาการอักเสบชัดเจน ขุยไม่มีลักษณะมันเหนียว ตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อรา

การวินิจฉัยและหลักการรักษาแบ่งกลุ่มอาการตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน

          การรักษาเมี่ยนโหยวเฟิงแบ่งเป็นสองชนิดได้แก่ ชนิดแห้งและชนิดมัน หลักสำคัญในการรักษาคือ ระบายร้อนขับความชื้น ขับลมระงับคัน หรือ บำรุงม้ามระบายชี่ตับ บำรุงเลือดเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้เลือดเย็นเพิ่มสารอิน

กลุ่มอาการ ลมร้อนเลือดแห้ง(风热血燥证)

           มักขึ้นบริเวณศีรษะและใบหน้า มีผื่นสีแดงอ่อน บนผื่นมีขุยแห้งลอกไม่หยุด ลักษณะคล้ายแกลบหลุดลอกได้ง่าย สะเก็ดรังแคค่อนข้างเยอะ อาจมีอาการคันเล็กน้อย เส้นผมแห้งและร่วงง่าย มักมีอาการปากแห้งกระหายน้ำ ท้องผูก

หลักการรักษา : ขับลมระบายร้อน บำรุงเลือดเพิ่มความชุ่มชื้น

กลุ่มอาการม้ามกระเพาะร้อนชื้น(脾胃湿热证)

         
พบบริเวณศีรษะใบหน้า หลัง อก รวมถึงซอกรักแร้เป็นต้น พบผื่นแดง ผื่นสีเหลืองแดงขนาดใหญ่ คลุมด้วยสะเก็ดชนิดมันเป็นจำนวนมาก หรือ หลังมีผื่นแฉะปริมาณน้อยแล้วเกิดสะเก็ดผิวสีเหลืองหนา มีอาการคัน มักมีอาการเบื่ออาหาร คอแห้งแต่ไม่อยากดื่มน้ำ หรือปากขม ปากเหนียว จุกแน่นท้องอืดปัสสาวะเหลืองเข้ม อุจจาระกลิ่นแรง

หลักการรักษา : ระบายร้อนขับความชื้น ปรับสมดุลม้ามกระเพาะ

ข้อแนะนำการปฏิบัติตน                                                                      

  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด รสเผ็ด ทานอาหารหวานมันเลี่ยนแต่น้อย เช่น ชานม กาแฟเข้มข้น แอลกอฮอล์
  • พยายามขับถ่ายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับผิว

ตัวอย่างการรักษาโรคต่อมไขมันอักเสบ

คนไข้เพศหญิง อายุ52ปี 

29-09-2022

          ช่วง6 เดือน ที่ผ่านมามีความเครียดจากการทำงาน บริเวณใบหน้า หลังหูทั้งสองข้างขอบไรผมด้านหน้าและขอบไรผมท้ายทอย มีผื่นแดงและขุยมันคล้ายกับตอนปี2019 (เมื่อปี2019เคยมารักษาด้วยอาการเดียวกัน) คนไข้ได้มีการใช้ยาเสตียรอยด์ทาพบว่าผื่นดีขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ในช่วงระยะเดือนนี้พบว่ามีผมร่วงมากขึ้น การทานอาหารปกติ การขับถ่ายปกติ ประจำเดือนไม่มา2เดือน (มาครั้งสุดท้ายตอนเดือนกรกฎาคม) ปริมาณประจำเดือนปกติ การนอนหลับปกติ                                                  
          การรักษาให้ตำรับยาที่มีสรรคุณในการเพิ่มการไหลเวียนเลือด ดับร้อนขับพิษและขับความชื้น เป็นยาจีนรับประทานเป็นระยะเวลา 9 วัน (ทานยาวันละ 2 ครั้ง) ร่วมกับยาทาสมุนไพรจีนชนิดขี้ผึ้ง

09-10-2022

          หลังรับประทานยาหนึ่งสัปดาห์พบว่า บริเวณหลังหูทั้งสองข้างและไรผมบริเวณท้ายทอยผื่นแดงจางลง สะเก็ดขุยน้อยลง แต่บริเวณระหว่างคิ้วยังคงมีผื่นแดงอยู่ ไม่มีอาการคัน อีกทั้งผมร่วงน้อยลง ทานอาหารได้ปกติ ขับถ่ายวันละครั้ง 

          การรักษาให้ตำรับยาเดิมปรับลดน้ำหนักยา 1 สัปดาห์

16-10-2022

          บริเวณท้ายทอยรอยผื่นแดงจางหาย ไม่มีอาการคัน สะเก็ดลดลง บริเวณระหว่างคิ้วยังคงมีผื่นแดงอยู่ ผมร่วงน้อยลง ทานอาหารได้ปกติ ขับถ่ายปกติ

          การรักษาให้ตำรับยาเดิม 9 วัน

27-10-2022

          ผื่นแดงบริเวณหนังศีรษะหลังหูทั้งสองข้างจางหาย ไม่มีอาการคัน บริเวณระหว่างคิ้วสองข้างบ่งครั้งมีผื่นแดงปรากฏ ไม่พบอาการคัน รับประทานอาหารได้ปกติ การขับถ่ายปกติ

          การรักษาให้ตำรับยาเดิมโดยสัปดาห์ที่สองลดปริมาณยาเหลือทานวันละ 1 ครั้งต่ออีก 1 สัปดาห์เพื่อควบคุมอาการก่อนหยุดรับประทานยา

จบการรักษา

          สรุปการรักษา เนื่องจากคนไข้มีปัจจัยกระตุ้นมาจากความเครียดทำให้เกิดอาการ ความเครียดในทางแพทย์แผนจีนจะส่งผลต่ออวัยวะตับ ประกอบกับพื้นฐานร่างกายเดิมมีภาวะร้อน

------------------------

บทความโดย

แพทย์จีน มนัญญา อนุรักษ์ธนากร  (หมอจีน หวง เหม่ย ชิง)
黄美清 中医师
TCM. Dr. Mananya Anurakthanakorn (Huang Mei Qing)
แผนกอายุรกรรมภายนอก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้