Last updated: 22 ต.ค. 2567 | 228 จำนวนผู้เข้าชม |
เวียนศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทางคลินิกสามารถพบในทุกเพศทุกวัย โดยปกติอาการตาลายและมึนงงศีรษะมักเกิดขึ้นพร้อมๆกัน มักมีอาการมึนงงศีรษะ ตาลาย รู้สึกเหมือนวัตถุรอบตัวหมุน เป็นอาการหลัก ในรายที่อาการเบา : รู้สึกราวกับนั่งเรือ โคลงเคลงไม่มั่นคง เมื่อหลับตาสักพักจะหายเป็นปกติ ส่วนในรายที่อาการหนัก : หน้ามืดเฉียบพลัน รู้สึกโคลงเคลงไม่หยุด หวิวๆคล้ายจะเป็นลม ตลอดจนเสียการทรงตัว และอาจถึงขั้นล้มลงได้ อาการที่มักพบร่วมกันได้เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก อาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้
โดยอาการเวียนศีรษะสามารถเกิดจาก สาเหตุต่างๆ เช่น
- ภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองส่วน Vertebrobasilar ไม่เพียงพอ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's Disease)
- โรคเวียนศีรษะจากการเปลี่ยนท่าทาง (BPPV)
- ภาวะเมาการเคลื่อนที่ เมารถ เมาเรือ
- โรคของกระดูกต้นคอ มีความสัมพันธ์กับการหมุนหรือหันคออย่างชัดเจน เดินเซ เสียสมดุลการทรงตัวเมื่อหมุนตัว
- ภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- ภาวะความดันโลหิตต่ำ(hypotension)
- ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
โดยแบ่งลักษณะของอาการเวียนได้ดังนี้
- อาการเวียนศีรษะแท้ (True Vertigo) มีอาการวิงเวียนร่วมกับรู้สึกว่าตัวเองหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน
- อาการเวียนศีรษะเทียม (False Vertigo) โดยทั่วไปมีเพียงอาการวิงเวียน แต่ไม่รู้สึกว่าตัวเองหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน
ในทางการแพทย์แผนจีนมองว่ามีสาเหตุหลักมาจาก
- ความผิดปกติทางอารมณ์ (ความเครียดกังวลหงุดหงิดโมโห)
- โภชนาการที่ไม่เหมาะสม
- ชี่และเลือดพร่อง
- สารจิงของไตไม่เพียงพอ
- การบาดเจ็บที่ศีรษะ การได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ
ซึ่งมีกลไกการเกิดโรคคือ
- อาการแกร่ง เกี่ยวข้องกับปัจจัยลม ไฟ เสมหะ เลือดคั่งรบกวนทวารสมอง
- อาการพร่อง เกิดจากชี่และเลือดขาดแคลน หรือสารจิงของไตไม่เพียงพอ , ทวารสมองขาดการหล่อเลี้ยง
โดยตำแหน่งของโรคอยู่ที่สมองเป็นหลัก และเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอวัยวะตับ, ม้าม ,ไต
กลุ่มอาการที่พบบ่อยได้แก่
- หยางของตับทะยานขึ้นสูง
วิงเวียนศีรษะ มีเสียงในหู ปวดแน่นบริเวณศีรษะและตา มักมีอาการหงุดหงิดโมโหง่าย (เมื่อหงุดหงิดหรือโมโห อาการเวียนศีรษะจะเป็นมากขึ้น) นอนไม่หลับ ฝันเยอะ หน้าและตาแดง ปากขม
- เสมหะและความชื้นอุดกั้นจงเจียว
เวียนศีรษะ หนักอึ้งที่ศีรษะแบบถูกบีบรัด มองเห็นของรอบตัวหมุน แน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเสมหะ ปากเหนียว เบื่ออาหาร
- เลือดคั่งปิดกั้นทวาร
วิงเวียนปวดศีรษะ (มีตำแหน่งปวดที่แน่นอน) หูอื้อ หูหนวก นอนไม่หลับ ใจสั่น มีอาการเหม่อลอย ใบหน้าริมฝีปากมีสีม่วงคล้ำ
- ชี่และเลือดพร่อง
มึนงงศีรษะ ตาลาย (เมื่อเคลื่อนไหวอาการจะหนักขึ้น เมื่ออ่อนเพลียอาการจะกำเริบได้ง่าย) หน้าซีดขาวหรือซูบเหลือง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ท้องอืด รับประทานอาหารได้น้อย
แนวทางการรักษาทางการแพทย์แผนจีน
- การรับประทานจีน
- ฝังเข็มและรมยา
- เข็มหู
- นวดทุยหนา (การจัดกระดูกในผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะจากโรคกระดูกต้นคอ)
จุดที่สามารถนวดเพื่อบรรเทาอาการเวียนศีรษะ
百 会 จุดไป่หุ้ย
风 池 จุดเฟิงฉือ
头维 จุดโถวเหวย
太阳 จุดไท่หยาง
悬钟 จุดเสวียนจง
กรณีศึกษา
ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย
HN381xxx
ชื่อ นางสาว นาถxxx
เพศ หญิง
อายุ 34 ปี
T: 36.5℃ HR:96ครั้ง/นาที BP:110/65 mmHg น้ำหนัก 54 กก
เข้ารับการรักษาเมื่อ 23 เมษายน 2566
อาการสำคัญ
เวียนศีรษะหูขวาอื้อ และ มีเสียงในหูเป็นเวลา3เดือน
ประวัติการเจ็บป่วย
เมื่อ 3 เดือนก่อนผู้ป่วยมีอาการหูอื้อและมีเสียงในหูโดยไม่ทราบสาเหตุ การได้ยินลดลง มีโทนเสียงแหลมในหูตลอดเวลาและได้ยินเสียงนี้ชัดขึ้นเมื่ออยู่ในที่เงียบ มีอาการเวียนศีรษะคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาการกำเริบวันละ 3-5 ครั้ง แต่ละครั้งจะเวียนศีรษะเป็นเวลา 1-5 นาที ภายหลังได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์แผนปัจจุบันว่าเป็นโรคเมเนียร์ (Meniere’s disease) และได้รับการรักษาด้วยยา serc (betahistine dihydrochloride) อาการเวียนศีรษะของคนไข้บรรทาหลังรับการรักษา 10 วัน
อาการเจ็บป่วยปัจจุบัน
หลังการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน 3 เดือนยังมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลง และเสียงในหูคงที่ เวียนศีรษะบางครั้ง มีอาการร่วมคือ หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย และ มีความเครียดง่าย ปากขมคอแห้ง การทานอาหาร และ การขับถ่ายปกติ
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
ปฏิเสธการได้รับการบาดเจ็บที่หูและศีรษะ การได้ยินเสียงดัง หรือโรคอื่นๆ
การตรวจร่างกาย
- ลิ้นแดงฝ้าเหลืองบาง ชีพจรเร็วและตึง
- การได้ยินหูขวาลดลง การได้ยินของหูซ้ายปกติ
- ไม่มีอาการเจ็บบริเวณหลังหูทั้งสองข้าง
- ไม่มีอาการตาสั่น
การวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน
- วิเคราะห์โรค : ผู้ป่วยมีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ความเครียดมักส่งผลกระทบต่อตับได้ง่าย เมื่อเครียดเป็นเวลานานจึงทำให้ไฟในตับเพิ่มขึ้น เมื่อไฟของตับลอยขึ้นสูงไปรบกวนส่วนบนของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หูอื้อ ปากขมคอแห้ง มีเสียงในหู รบกวนการนอน ทำให้หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย ลิ้นแดงฝ้าเหลืองชี้ถึงความร้อนในร่างกาย ชีพจรเร็วและตึงบ่งบอกถึงความร้อนในตับ
- เวียนศีรษะ กลุ่มอาการไฟตับรบกวนส่วนบน
วิธีการรักษา
รักษาด้วยการฝังเข็ม เพื่อระบายความร้อนในตับ จุดที่เลือกใช้耳门Er Men(TE 21)กระตุ้นไฟฟ้า、听宫Ting Gong(SI 19)、听会Ting Hui(GB 2)、翳风Yi Feng(TE 17)กระตุ้นไฟฟ้า、中渚Zhong Zhu(TE 3)、外关Wai Guan(TE 5)、阳陵泉Yang Ling Quan(GB 34)、三阴交San Yin Jiao(SP 6)、足三里Zu San Li(ST 36)
ผลการรักษา
- หลังการรักษาด้วยการฝังเข็มสัปดาห์ละ1ครั้ง
- หลังการรักษาครั้งที่ 1 อาการตึงหูอื้อเบาลง แต่ยังมีเสียงในหู
- หลังการรักษาครั้งที่ 2 อาการตึงหูอื้อหายไป ยังคงมีเสียงในหู มีอาการเวียนศีรษะบ้างบางครั้ง
- หลังการรักษาครั้งที่ 3 อาการเสียงในหูหายไป
- ไม่มีอาการเวียนศีรษะ
- ไม่มีอาการกลับมาอีก หลังผ่านไป1เดือน
------------------------
บทความโดย
ดร.พจ.พีระพงศ์ เลิศนิมิตพันธ์ (หมอจีน เฉิน เจียง เฉิง)
陈江成 中医师
TCM. Dr. Peeraphong Lertnimitphun (Chen Jiang Cheng)
แผนกคลินิกฟื้นฟูอัมพฤกษ์อัมพาตและโรคทางระบบประสาท 中医脑病针灸康复门诊 (Stroke and Neurological Rehabilitation Clinic)
11 พ.ย. 2567
11 พ.ย. 2567
25 ต.ค. 2567