Last updated: 6 ก.ย. 2567 | 298 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างไปจากสมัยก่อน เช่นนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานมากขึ้น นั่งเล่นมือถือนานๆ หรือพนักงานบริษัทที่ต้องนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ รวมไปจนถึงอาชีพอื่นๆ เช่นนักกีฬาที่ออกกำกายที่หักโหม เกษตรกรที่ต้องยกของก้มหลังนานๆ นักเรียนนักศึกษาที่ต้องนั่งเรียนหรือสะพายกระเป๋าหนักเกินความจำเป็น ซึ่งเป็ฯสาเหตุให้หมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาท เป็นอาการที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขา เพราะกระดูกสันหลังบริเวณนี้รับน้ำหนักมาก และมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมากกว่ากระดูกสันหลังส่วนอื่นๆ ทำให้หมอนรองกระดูกอาจจะเกิดการแตกปลิ้นออกมาจนกดเบียดเส้นประสาท ให้รีบสังเกตตัวเองด่วนว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า ?
วิธีเช็คอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกเอวทับเส้นประสาท คือ ภาวะที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของโครงสร้างกระดูกสันหลังทำให้ทรุดตัวปลิ้นหมอนรองกระดูกและไปกดเบียดเส้นประสาท ปกติแล้วหมอนรองกระดูกสันหลังมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นเหมือนเจลลี่ มีหน้าที่รองรับแรงกระแทกที่เกิดจากการใช้งานกระดูกสันหลังในเวลาที่เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเดินหรือกระโดด ภายในมีองค์ประกอบของน้ำเป็นส่วนสำคัญ พอนานวันเข้าเปอร์เซ็นต์ของน้ำในหมอนรองกระดูกสันหลังลดลง ทำให้ความยืดหยุ่นน้อยลง เมื่อหมอนรองกระดูกปลิ้นออกไปกดทับเส้นประสาทส่วนใดก็จะทำให้เส้นประสาทนั้นๆเกิดการระคายเคืองอักเสบ และมีอาการปวดแสดงออกมาตามแนวของเส้นประสาทนั้นตามมา
สังเกตอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ได้ดังนี้
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
ไม่มี
การตรวจร่างกาย
คำแนะนำเพิ่มเติม
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการก้มเงย ยกของหนักเป็นประจำ
ยืดกล้ามเนื้อก่อนหลังออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบๆ หลังและหน้าท้องให้แข็งแรง
ฝึกยืดกล้ามเนื้อหลัง เพื่อเป็นการลดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง
ผลการรักษา (progression note)
ผู้ป่วยเข้าการรักษา ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2567 – วันที่ 20 พฤษภาคม 2567
การประเมินการรักษาครั้งที่ 1 (วันที่18 มีนาคม 2567 )
อาการปวดเอวสะโพกดีขึ้น สามารถพลิกตัว ยกสะโพกขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้ป่วยยังสามารถลุกนั่งและเดินขึ้นได้ แต่ไม่สามารถเดินได้ไกลและยังมีอาการปวดบริเวณสะโพกทั้ง2ด้านอยู่ สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น ลิ้นแดงคล้ำ มีจุดแดง ชีพจรฝืด
การประเมินการรักษาครั้งที่ 2 (วันที่ 25 มีนาคม 2567)
อาการปวดเอวสะโพกดีขึ้น สามารถพลิกตัว ยกสะโพกขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่สามรถนั่งและเดินได้ ไกล
การประเมินการรักษาครั้งที่ 3 (วันที่ 1 เมษายน 2567)
อาการปวดเอวและสะโพกฝั่งทั้ง2ดีขึ้นอย่างชัดเจน อาการปวดและชาขาขวาลดลงจากเดิม สามารถลุกนั่งได้นานขึ้น เดินได้บ้างแต่ไม่ไกล
การประเมินการรักษาครั้งที่ 4 (วันที่ 8 เมษายน 2567)
ปวดเอว ต้นขาด้านหลังปวดและร้าวลงขาลดลง หน้าแข้งยังมีอาการชา เดินและนั่งได้ดีขึ้น
การประเมินการรักษาครั้งที่ 5 (วันที่ 16 เมษายน 2567)
อาการปวดเอวลดลง อาการปวดชาบริเวณต้นขาหายไป เท้าไม่ชา แต่ยังมีอาการชาบริเวณหน้าแข้งและน่องอยู่บ้าง แต่ไม่มาก
การประเมินการรักษาครั้งที่ 6 (วันที่ 22 เมษายน 2567)
ปวดเอวลดลงมาก เดินและนั่งได้ดีขึ้นจนเกิบเป็นปกติ
การประเมินการรักษาครั้งที่ 7 (วันที่ 29 เมษายน 2567)
หลังจากทุยหนาฝังเข็มไปครั้งก่อน อาการปวดเอวและสะโพกหายไป เท้าไม่ชาแล้ว แต่ยังมีอาการปวดบริเวณหน้าแข้งเป็นบางครั้ง ปวดไม่มาก
การประเมินการรักษาครั้งที่ 8 (วันที่ 6 พฤษภาคม 2567)
เนื่องจากผู้ป่วยกลับไปออกกำลังกายด้วยการวิ่งจึงมีอาการปวดหลังและร้าวลงขา2-3วันหลังการออกกำลังกาย แต่สามารถใช้ชีวิตประจำวันเดินยืนนั่งได้ดีขึ้นมาก
การประเมินการรักษาครั้งที่ 9 (วันที่ 20 พฤษภาคม 2567)
หลังจากฝังเข็มทุยหนาไปเป็นจำนวน 9 ครั้ง อาการปวดเอวไม่กำเริบ ขวาไม่มีอาการปวดและชา เท้าไม่ชา ไม่มีอาการปวดช่วงกลางคืน พลิกตัวไม่เจ็บ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
วิเคราะห์และสรุป
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทโดยการทุยหนาฝังเข็มให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถบรรเทาอาการปวดได้ โดยการทุยหนาฝังเข็มลงไปตามจุดฝังเข็มเพื่อทะลวงเส้นลมปราณที่อุดกั้น ปรับการไหลเวียนของชี่และเลือดให้คล่องขึ้น เมื่อชี่และเลือดเคลื่อนที่ได้ดีก็ทำให้อาการเจ็บปวดบรรเทาลงนั่นเอง ตามกลไกที่ว่า “เมื่อไหลเวียนดีก็จะไม่ปวด เมื่อไม่ไหลเวียนก็จะปวด” (通则不痛,不通则痛)ช่วยฟื้นฟูอาการชาหรือขาอ่อนแรง ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรืออาการยังไม่รุนแรงยังสามารถรักษาแบบประคับประคองได้ ทั้งนี้ผลการรักษาขึ้นอยู่กับบุคคล ปัจจัยกระตุ้น และการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย
------------------------
บทความโดย
แพทย์จีน ศศิพัชญ์ อิทธิชัยโฆษิตกุล (หมอจีน สุ่ย จิง ซิน)
许精鑫 中医师
TCM.Dr.Sasiphat Aitthichaikhositkun
แผนกกระดูกและทุยหนา 骨伤推拿科 (Orthopedic and Tuina TCM Department)
คลินิกคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวแพทย์สาขานครราชสีมา