อาการปลายมือและเท้าชาจากเคมีบำบัด แพทย์แผนจีนดูแลอย่างไร

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  7844 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อาการปลายมือและเท้าชาจากเคมีบำบัด แพทย์แผนจีนดูแลอย่างไร

เคมีบำบัดเป็นหนึ่งในวิธีการรักษามะเร็งที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมักนิยมใช้ร่วมกับการผ่าตัดและการฉายแสงรังสีรักษา เคมีบำบัดนั้นสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้เป็นวงกว้าง ควบคุมการกระจายของมะเร็งได้ สามารถใช้ได้กับโรคมะเร็งทั้งในระยะต้นไปจนถึงระยะลุกลาม แต่ในขณะเดียวกันก็มีการทำลายเซลล์ปกติในร่างกายของเราไปด้วย จุดนี้จึงเป็นเหตุให้เคมีบำบัดมีผลข้างเคียงมากมาย อาทิเช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ผมร่วง ใจสั่น ท้องผูก ท้องเสีย พิษต่อตับไต มือเท้าหรือปากชา เป็นต้น

อาการปลายมือและเท้าชาจัดเป็นหนึ่งในอาการของปลายประสาทเสื่อมจากเคมีบำบัด หรือ chemotherapy-induced peripheral neuropathy(CIPN) โดยเกิดจากการให้ยาเคมีบำบัดบางชนิดที่มีพิษต่อระบบประสาทส่วนปลายโดยเฉพาะยากลุ่ม Platinum (cisplatin หรือcarboplatin) และยากลุ่ม Taxane (paclitaxel) เนื่องจากยาส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของเซลล์ประสาท เกิดการทำลายของใยนำกระแสประสาทคำสั่ง (axon) และเยื่อหุ้มประสาท (myelin sheath) ทำให้การนำกระแสประสาทไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานช้ากว่าปกติเส้นใยประสาทที่มีขนาดยาวเกิดผลกระทบเป็นอันดับแรกจึงพบอาการชาที่บริเวณปลายเท้าทั้งสองข้างก่อนและปลายนิ้วมือตามลำดับ นอกจากนี้ยาเคมีบำบัดยังส่งผลทำให้สูญเสียความรู้สึกต่อการสัมผัสบริเวณปลายมือ ปลายเท้า สูญเสียการทรงตัว ก่อให้เกิดอาการปวด การตอบสนองทั้งจากของอ่อนนุ่ม ด้าน หรือของแหลมคมลดลง มีอาการกล้ามเนื้อเกร็งหรืออ่อนแรง[1]

ถึงแม้ว่าอาการมือเท้าชาส่วนมากไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย แต่เนื่องจากอาการนี้กินระยะเวลานาน และในผู้ป่วยบางรายมีอาการเกินกว่า 2 ปี  อีกทั้งการรักษาเพื่อบรรเทาอาการในทางการแพทย์ตะวันตกก็ยังเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร การแพทย์แผนจีนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยรักษาร่วมกับการแพทย์ตะวันตก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยขึ้นมาได้

ในทางการแพทย์แผนจีนมองว่า อาการมือเท้าชา ที่เกิดจากปลายประสาทเสื่อมจากเคมีบำบัดเกิดจากพิษของยาเคมีบำบัดส่งผลให้ไตและม้ามพร่อง ลมหนาวและความชื้นเข้ามากระทบ ทำให้เส้นลมปราณถูกอุดกั้น เมื่อเส้นลมปราณอุดกั้นส่งผลให้ชี่และเลือดไม่สามารถไหลมาหล่อเลี้ยงแขนและขาได้ และ/หรือการที่พลังหยางในร่างกายเราพร่องไป เลือดจึงไม่ได้รับการหล่อเลี้ยงไม่ได้รับการขับเคลื่อน ชี่และเลือดไม่สามารถไหลมาหล่อเลี้ยงแขนและขาได้ เมื่อมือและเท้าขาดการหล่อเลี้ยงจากชี่และเลือดจึงเกิดอาการชา หรือปวดขึ้น การรักษาโดยการบำรุงม้ามและไต บำรุงเลือดและทะลวงเส้นลมปราณ ไม่ว่าจะด้วยยารับประทานหรือยารับประทานควบคู่กับการแช่มือและเท้าด้วยสมุนไพรจีน สามารถส่งผลให้อาการมือเท้าชาบรรเทาลง การฝังเข็มเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เมื่อนำมาใช้ร่วมกันแล้วสามารถเสริมประสิทธิภาพการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เห็นได้ว่าอาการปลายประสาทเสื่อมจากเคมีบำบัดนั้น สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยยาสมุนไพรจีนและการฝังเข็ม แต่การรักษาอาการดังกล่าวนั้นจำเป็นต้องดูสภาพร่างกายของผู้ป่วยควบคู่ไปด้วย เพราะการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนเป็นการมองผู้ป่วยแบบองค์รวม ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อีกทั้งจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองที่พบว่าหากตัวโรคถูกทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานการรักษาก็จะทำได้ยากยิ่งขึ้น ควรที่จะเริ่มทำการรักษาโดยเร็วที่สุด หรือถ้าป้องกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มมีอาการและกำลังเริ่มทำเคมีบำบัดก็จะได้ผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้น

------------------------

บทความโดย

แพทย์จีน วรพงศ์ ชัยสิงหาญ (หมอจีน เฉิน จู เซิง)
陈株生 中医师
TCM. Dr. Worapong Chaisingharn (Chen Zhu Sheng)
แผนกอายุรกรรมโรคมะเร็ง

เอกสารอ้างอิง

[1] Ploenpit T,Nanthana T, Rapepan U, Boonlert V. Effects of Exercise Program on Peripheral Neuropathy and the Quality of Life in Patients with Ovarian Cancer Receiving Chemotherapy. J Nurs Sci. 2018;36(2):42-53.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้