Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 3417 จำนวนผู้เข้าชม |
ในบางช่วงที่คนไข้เยอะ ผมอาจไม่ได้ตอบคำถามทุกคำถามให้กับทุกท่านได้ละเอียดมากนัก ซึ่งคนไข้หลายท่าน มักมีอาการของกรดไหลย้อนที่พบได้ค่อนข้างบ่อย บ้างก็มาเป็นอาการหลัก บ้างก็เป็นอาการร่วมที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นวันนี้ผมขอเขียนข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ฝากถึงคนไข้ทุกท่านที่ป่วยเป็นกรดไหลย้อนด้วยนะครับ
1. กรดไหลย้อนคืออะไร?
การที่อาหารหรือน้ำย่อยและกรดได้ไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารจนทำให้หลอดอาหารเกิดภาวะอักเสบขึ้น ซึ่งมักเกิดจากหลากหลายสาเหตุที่ทำให้ความสามารถในการควบคุมการไหลย้อนกลับสูญเสียไป จนทำให้กรดและน้ำย่อยจำพวกโปรตีน น้ำดีทำลายผิวหนังของหลอดอาหารภายในจนเกิดการอักเสบ และเป็นแผลในที่สุด
2. กรดไหลย้อนชนิด NERD = หลอดอาหารอักเสบหรือไม่ ?
ค่อนข้างมีความแตกต่างกันพอสมควรในเรื่องของระดับความรุนแรง เพราะโดยทั่วไปแล้วกลไกที่ส่งผลให้เกิดการไหลย้อนอาจพบได้ในคนทั่วไปและหากไม่ได้เป็นตลอดหรือบ่อยครั้งก็มักไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหลอดอาหารมากนัก เรียกได้ว่าเป็นกรดไหลย้อนชนิด non-erosive reflux disease (NERD) แต่ทว่าหากเป็นหนักและบ่อยครั้งจนทำให้ผิวของหลอดอาหารเริ่มอักเสบจึงค่อยเรียกว่า หลอดอาหารอักเสบที่เกิดจากกรดไหลย้อน
3. น้ำดีไหลย้อน (Bile reflux) และ กรดไหลย้อนคือเรื่องเดียวกัน?
ที่จริงแล้วเป็นกลไกการไหลย้อนที่เหมือนกัน แต่ต่างกันที่ว่าของเหลวที่ไหลย้อนต่างกันคือ น้ำดีกับกรด(น้ำย่อย) และอีกเรื่องคือตำแหน่งที่แตกต่างกันกล่าวคือ น้ำดีไหลย้อนจะเกิดขึ้นที่ส่วนปลายหูรูดกระเพาะที่เชื่อมต่อกับลำไส้เล็กส่วนต้น ส่วนกรดไหลย้อนคือ หูรูดกระเพาะส่วนต้นที่เชื่อมกับหูรูดหลอดอาหาร แต่ทั้งนี้น้ำดีก็สามารถไปถึงหลอดอาหารได้ด้วยเช่นกัน
4. อะไรที่ทำให้หูรูดหลอดอาหารเสียการควบคุมหรือคลายตัวได้ง่าย?
1.อาหารที่มีไขมัน ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์ คาเฟอีนเป็นต้น
2.โรคอ้วนลงพุง ส่งผลให้แรงดันในช่องท้องมากกว่ากะบังลม
3.พฤติกรรมการใช้ชีวิตทั่วไป เช่น การรับประทานอาหารเสร็จแล้วอยู่ในท่านอน รับประทานมื้อดึกแล้วเข้านอน รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาและอิ่มเกินไป เคี้ยวไม่ละเอียด ความเครียด เป็นต้น
4.ภาวะตั้งครรภ์
5.ภาวะกะบังลมหย่อน
5. อาการที่เด่นชัดที่สุดของกรดไหลย้อน?
1.เรอเปรี้ยว เนื่องจากการคลายตัวของหูรูดทำให้อาหาร ของเหลว น้ำดี น้ำย่อยหรือแม้กระทั่งแก๊สไหลย้อนกลับถึงหลอดอาหาร ช่องคอ หรืออาจมีลมออกมาถึงช่องปากเลยก็ได้เช่นกัน
2.แสบกลางอก เนื่องจากความเป็นกรดกระตุ้นและส่งผลถึงระบบประสาทการรับรู้ของเราซึ่งอยู่บริเวณหลอดอาหาร เราจึงรับรู้ได้ถึงความแสบจากภาวะกรดไหลย้อน
3.ไม่สบายท้องหรือเหนือสะดือมีอาการแสบร้อน
4.เจ็บหน้าอก ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณใต้ลิ้นปี่และมักร้าวลงไปหน้าท้อง คอ หน้าอก แขนเป็นต้น
6. กรดไหลย้อน ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง?
กรดไหลย้อนอาจทำให้เยื่อบุหลอดอาหารถูกทำลาย ส่งผลให้หลอดอาหารตีบแคบลง เป็นแผล หรือกลายเป็นหลอดอาหารอักเสบชนิด Barrett แต่สิ่งที่น้อยคนจะรู้ก็คือกรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบทางอ้อมไปถึงหูคอจมูกปากรวมถึงระบบทางเดินหายใจได้ด้วยเช่นกัน อาจทำให้เกิดภาวะจมูกอักเสบ คออักเสบเรื้อรัง หูอื้อ เป็นต้น
ดังนั้นขึ้นชื่อว่า กรดไหลย้อน ก็มักเป็นโรคที่หลายๆท่านสนใจและมักถามถึงกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก และอาจสงสัยว่าแพทย์แผนจีนเวลารักษามองอย่างไร โดยทั่วไปสำหรับแพทย์จีนแล้วนั้น เรามักกล่าวถึงการทำงานของกระเพาะและม้ามที่อ่อนแอลง ไม่สามารถขับเคลื่อนหรือตอบรับกับอาหารที่เรารับประทานได้ตามปกติ จนมักก่อให้เกิดความผิดปกติและการเสียสมดุลอื่นๆตามมา เช่น ก่อความชื้น ก่อความร้อน ชี่ในตับติดขัด ชี่และเลือดพร่อง เป็นต้น จึงทำให้อาการของกรดไหลย้อนนั้น อาจไม่ได้มีลักษณะอาการเพียงแค่ตามชื่อที่กล่าวไว้ว่า กรดมันไหลย้อน แต่เพียงอย่างเดียว โดยมากอาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆโดยที่ผู้ป่วยอาจไม่ได้ทันได้สังเกตร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ คอแห้ง ขมคอ หายใจไม่โล่ง เป็นต้น
เห็นแบบนี้แล้วผมจึงแนะนำให้ทุกท่าน รีบทำการดูแลรักษาและพยายามฟื้นฟูให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ โดยวิธีการดูแลเบื้องต้นว่าต้องทำอย่างไรนั้น โปรดติดตามบทความในหัวข้อ “แสบร้อน เรอเปรี้ยว ดูแลอย่างไร ?” กันได้เลยครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก
แพทย์จีน ต้นสกุล สังข์ทอง
25 ต.ค. 2567
11 พ.ย. 2567
11 พ.ย. 2567