การฝังเข็มรักษาอาการหูอื้อ

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  8756 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การฝังเข็มรักษาอาการหูอื้อ

          หูอื้อ หรือการได้ยินเสียงดังในหู เป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของการได้ยิน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามีเสียงก้องอยู่ในหู ที่มาจากในร่างกายมากกว่าการได้ยินเสียงที่มาจากภายนอก ซึ่งเสียงอาจมีความถี่สูงคล้ายเสียงแมลง หรือความถี่ต่ำคล้ายเสียงเครื่องจักร อาจแสดงอาการข้างเดียวหรือสองข้างพร้อมกัน หูอื้อเป็นอาการทางคลินิกที่พบได้บ่อย มีอัตราการเกิดโรคที่ค่อนข้างสูง และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการที่สร้างความรำคาญ แต่อาการหูอื้อไม่ได้โรคที่ร้ายแรงและสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้

 

 สาเหตุและกลไกในทางแพทย์จีน

อาการหูอื้อมีตำแหน่งการเกิดโรคอยู่ที่หู สังกัดอวัยวะไต  กลุ่มอาการแบ่งได้เป็นแกร่งและพร่อง

- ภาวะอินและเลือดพร่อง

- สารจำเป็นของไตไม่เพียงพอ

- เสมหะร้อนก่อกวนหู

- เสียชี่จากภายนอกเข้ารุกราน

 

 การวินิจฉัยแยกกลุ่มอาการ

1. กลุ่มอาการลมร้อนจากภายนอกเข้ากระทำ

อาการ :  หูอื้อในระยะแรก ร่วมกับมีอาการแน่นตึงในหู การได้ยินลดลง หรือมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ไอเป็นต้น ลิ้นแดง ฝ้าขาวบางหรือเหลืองบาง ชีพจรลอยเร็ว(浮数)

วิธีรักษา : ขับลมระบายความร้อน



2. กลุ่มอาการไฟตับเข้ารุกราน

อาการ : หูอื้อ มักเกิดอาการหรือมีอาการหนักขึ้นหลังจากหงุดหงิดโมโห ร่วมกับมีอาการปากขม คอแห้ง หน้าและตาแดง ปัสสาวะสีเหลือง ท้องผูก เจ็บเสียดชายโครง ปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะ ลิ้นแดงฝ้าเหลือง ชีพจรตึงเร็ว(弦数)

วิธีรักษา : ระบายความร้อนในตับ

 

3. เสมหะและไฟสะสม

อาการ : หูอื้อ รู้สึกตึงแน่นในหู ร่วมกับมีอาการหนักศีรษะ แน่นหน้าอก ไอมีเสมหะ ปากขม ลิ้นแดง ฝ้าเหลืองเหนียว ชีพจรลื่นเร็ว(滑数)

วิธีรักษา :  ระบายความร้อนขับเสมหะ



4. กลุ่มอาการม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง

อาการ : หูอื้อ มักเกิดอาการหรือเป็นหนักขึ้นเมื่อตรากตรำเหน็ดเหนื่อย หรือเวลานั่งแล้วลุกขึ้นจะเป็นหนักขึ้น ร่วมกับมีอาการอ่อนเพลีย เซื่องซึม สีหน้าไม่สดใส เบื่ออาหาร ท้องอืดแน่น ถ่ายเหลว ลิ้นซีด ฝ้าขาวบาง ชีพจรเล็ก(细)

วิธีรักษา : เสริมม้ามบำรุงลมปราณ



5. กลุ่มอาการสารจำเป็นของไตพร่อง

อาการ : หูอื้อเป็นเวลานาน ร่วมกับมีอาการปวดเมื่อยเอวและเข่าอ่อนแรง เวียนศีรษะ ตาลาย ผมร่วงหรือฟันโยกคลอน ปัสสาวะเวลากลางคืนบ่อย สมรรถภาพทางเพศเสื่อม เหงื่อออกในตอนกลางคืน ลิ้นซีดหรือแดงอ่อน ชีพจรอ่อนหรือเล็กเร็ว(弱或细数)

วิธีรักษา : บำรุงไตและสารจำเป็นของไต

 

 ตัวอย่างกรณีการรักษาอาการหูอื้อ

ข้อมูลผู้ป่วย

รหัสผู้ป่วย : HN 356638

ชื่อ : คุณ ณัฐXXX

วันที่เข้ารับการรักษา : 26 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพศ : หญิง            อายุ : 54 ปี

อุณหภูมิ 36.1 องศาเซลเซียส             ชีพจร : 86 ครั้ง/นาที

ความดันโลหิต : 118/71 mmHg    น้ำหนัก :  51  กิโลกรัม

อาการสำคัญ (Chief complaint) หูมีเสียง 1 สัปดาห์

อาการปัจจุบัน (Present illness) หูมีเสียง คล้ายจิ้งหรีด เสียงดังทั้งวัน การได้ยินปกติ มีอาการเวียนศีรษะ ไม่คลื่นไส้ นอนหลับไม่สนิท เข้านอนยากเนื่องจากเสียงในหูดังรบกวน เบื่ออาหาร ขับถ่ายปกติ  ลิ้นแดงฝ้าบาง ชีพจรเล็กไม่มีแรง(细无力)

 

 ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต( Past history)

- ปฏิเสธประวัติการแพ้ยา



 การวินิจฉัยโรค(Diagnosis)

วินิจฉัยตามหลักแพทย์จีน

耳鸣หูมีเสียง (กลุ่มอาการม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง)

วินิจฉัยตามหลักแพทย์ปัจจุบัน

หูอื้อ (Tinnitus)

 
 วิธีการรักษา(Treatment)

รักษาด้วยการฝังเข็มเป็นหลัก ใช้หลักการรักษา เสริมม้ามบำรุงชี่ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด

 
 ผลการรักษา (progression note)

ผู้ป่วยเข้าการรักษา ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2565 - วันที่ 10 เมษายน 2565

รักษาครั้งที่ 2 วันที่ 30 /3/2565

หลังจากฝังเข็มไป เสียงดังในหูลดลง ยังมีเสียงทั้งวัน นอนหลับได้สนิทขึ้น ไม่มีอาการเวียนศีรษะ

รักษาครั้งที่ 3 วันที่ 3/4/2565

เสียงดังในหูลดลง มีดังสลับเบาระหว่างวัน ทานอาหารได้มากขึ้น นอนหลับดีขึ้น 

รักษาครั้งที่ 4 วันที่ 7/4/2565

โดยรวมเสียงในหูเบาลง ใน 3 วันที่ผ่านมากำเริบ 1-2 ครั้ง บางวันเสียงดังหายไป

รักษาครั้งที่ 5 วันที่ 10/4/2565

เสียงดังในหูหายไป การได้ยินชัดขึ้น นอนหลับปกติ ทานอาหารปกติ สามารถหยุดการรักษาได้

 
 การดูแลและป้องกัน

นวดบริเวณหู

               - ใช้มือสองข้างกดที่บริเวณใบหู นวดคลึงขึ้นและลง นวดประมาณ 15 นาที

               - ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางวางบริเวณรูหูด้านนอก กดเบาๆ ข้างละ 15-30  ครั้ง วันละ 3 ครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงแน่นในหูร่วมด้วย


 สรุปผลการรักษา

           การฝังเข็มสามารถรักษาอาการเสียงในหูได้ผลดี หากระยะเวลาในการเกิดโรคไม่เกิน 2 สัปดาห์ คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น ทั้งนี้ผลการรักษาขึ้นอยู่กับบุคคล สาเหตุการเกิดโรค ระยะเวลาในการเข้ารับรักษา ปัจจัยกระตุ้น ช่วงอายุ และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้