Last updated: 2 ก.ค. 2567 | 147768 จำนวนผู้เข้าชม |
อาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัย ส่วนใหญ่มาจากการนั่งทำงานในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน หรือในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน อากาศเย็นๆชื้นๆ บริเวณคอบ่าไหล่โดนลมเย็นจากแอร์มากระทบ ทำให้คอบ่าไหล่ ปวดตึง แล้วมักจะมีอาการปวดหัว เวียนหัวตามมา บางคนถ้ากล้ามเนื้อคอเกร็งมากก็จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
หมอจีนมีวิธีการกดจุดบรรเทาอาการเวียนศีรษะจากโรคออฟฟิศซินโดรมมาฝากกันครับ
1. นวดจุด ไท่หยาง (太阳穴) จุดนี้จะอยู่บริเวณขมับทั้งสองข้าง อยู่ด้านหลังหางคิ้วไปประมาณ 1.5 เซนติเมตร เวลานวดใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงหมุนเป็นวงกลมนาน 3 – 5 นาที
2. นวดจุด ป่ายฮุ่ย (百会穴) จุดนี้อยู่บริเวณศีรษะด้านบน อยู่ในแนวกึ่งกลางระหว่างใบหูทั้งสองด้าน เวลานวดใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลาง นวดคลึงหมุนเป็นวงกลมประมาณ 3 - 5 นาที
3. นวดจุดเฟิงฉือ (风池穴)จุดนี้จะอยู่บริเวณท้ายทอยทั้งสองข้าง เวลาคลำจะเจอร่องลึกบริเวณไรผม เวลานวดใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดคลึงลงไปหมุนเป็นวงกลมประมาณ 3 – 5 นาที
* หากกล้ามเนื้อโดยรอบมีจุดกดเจ็บหรือคลำแล้วเจอกล้ามเนื้อหดเกร็งอยู่ก็สามารถนวดบริเวณโดยรอบได้
4. นวดจุด ชวีฉือ (曲池穴)จุดนี้อยู่บริเวณข้อศอกด้านนอก เมื่องอข้อศอก 90 องศาจุดนี้ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างกระดูกและปลายเส้นข้อพับข้อศอกด้านนอก กดลงไปบนจุดจากเบาไปหนักประมาณ 3 – 5 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยนวดคลึงเบา ๆ ต่ออีก ประมาณ 1 นาที
5. นวดจุด เหอกู่ (合谷穴)จุดนี้อยู่บริเวณด้านหลังฝ่ามือทั้งสองข้าง ตำแหน่งระหว่างนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ เมื่อกางนิ้วทั้งสองออก จะอยู่ลึกเข้าไปจากประมาณ 1 ข้อนิ้วหัวแม่มือ เวลานวดใช้นิ้วหัวแม่คลึงลงไปบนจุด หมุนเป็นวงกลมประมาณ 3 – 5 นาที
6. นวดจุด เจียนจิ่ง (肩井穴) จุดนี้จะอยู่บนบ่า ตำแหน่งระหว่างกระดูกหัวไหล่ด้านนอกสุดและกระดูกคอข้อที่ 7 (เป็นกระดูกสันหลังข้อที่นูนที่สุด) นวดคลึงด้วยปลายนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อยประมาณ 3 – 5 นาที
*** นอกจากนี้ยังสามารถนวดกล้ามเนื้อบ่าในแนวเส้นนี้ได้อีกด้วย
การนวดจุดเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเวียนหัวได้ด้วยตนเอง ช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ลดอาการตึง เกร็งของกล้ามเนื้อคอบ่า การนวดให้ได้ผลดีนั้น เมื่อกดไปแล้วตัวเราต้องรู้สึกตึง ๆ หน่วง ๆ บริเวณตำแหน่งที่กด ความรู้สึกเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาท ให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น หากยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาที่ถูกวิธีต่อไปครับ
บทความโดย แพทย์จีน บดินทร์ ก่อกวิน (กวน จิน ซุ่น)
แผนกทุยหนา
11 พ.ย. 2567
11 พ.ย. 2567
14 พ.ย. 2567